นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) คาดว่า ในไตรมาส 2/52 จะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นทั้งกำไรและรายได้เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีก่อน ถึงแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวแต่การที่บริษัทมี backlog ณ ไตรมาส 1 ที่ 300 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้ถึงสิ้นปี รวมทั้งยังมาจากการเพิ่มสินค้าเคเบิล เพื่อเพิ่มยอดขายในปีนี้ และยังมาจากธุรกิจสายส่งสัญญาณ Fiber Optic ที่ยังมีความต่องการ โดยไตรมาสแรกบริษัทมีรายได้รวมแล้ว 397.71 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 43.20 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทยังมีงานที่รอยื่นประมูลมูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานสายสัญญาณ Fiber Optic ซึ่งหวังว่าจะได้ 50% ซึ่งก็จะทำให้สามารถรับรู้รายได้เข้ามาเพิ่มบางส่วนในปีนี้ อีกทั้ง ยังมีงาน Fiber Optic ของกฟผ. เพิ่มเข้ามาในไตรมาส 2-3 ปีนี้ จึงทำให้บริษัทยังคงการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่ 1.2 พันล้านบาทและกำไรที่ 110 ล้านบาท
"ผมตั้งเป้าหมายการเติบโตแบบระมัดระวัง เพราะต้องยอมรับว่าตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเหตุการณ์จะพลิกผันอย่างไรและถือเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองหรือเศรษฐกิจ และการที่เราพยายามตุน backlog ให้ได้มากเป็นเรื่องที่ดี แต่หากไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรงก็มีความเป็นไปได้ที่รายได้ของเราอาจจะมากกว่าเป้าหมายก็ได้" นายสมบัติ กล่าว
นอกจากงานข้างต้นแล้วบริษัทได้วางแผนโดยให้บริษัทลูกในการเพิ่มรายได้ เช่น อินเตอร์ลิงค์ เอ็นเนอยี่ เข้าไปรับงานประมูลสถานีไฟฟ้าย่อยในไตรมาส 3-4 มูลค่า 500-1,000 ล้านบาท และการเข้าไปรับงาน submarine แท่นขุดเจาะน้ำมัน และยังรอความชัดเจนงานสายคเบิลของภาครัฐ ขนาด 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไซด์ใหญ่ที่บริษัทไม่ค่อยได้รับในไตรมาส 3 ซึ่งจะทำให้เรามี backlog มากขึ้น
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า การที่เศรษฐกิจไม่ดีทำให้เราต้องหาช่องทางรายได้เพิ่มเพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์และการแข่งขันจะเป็นอย่างไร โดยปัจจุบันบริษัทมีงานที่จะเข้าประมูลทั้งปีซึ่งรวมถึงบริษิทลูกด้วย 3-5 พันล้านบาท และในปีนี้คงรักษาฐานลูกค้าเก่าและรุกไปเน้นในการทำการตลาดในส่วนของภาครัฐที่ปัจจุบันกำลังซื้อเพิ่มขึ้นและการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายเคเบิล เช่น ตลาดผู้ค้ากล้องวงจรปิด CCTV จานดาวเทียม ขณะเดียวกันในส่วนของวิศวกรรมวางระบบ มีการทยอยรับรู้รายได้ซึ่งเป็นรายได้ค้างรับในงานติดตั้งงาน submarine จ.สตูลที่เปิดใช้งานได้แล้วตรงนี้ก็จะทยอยรับรู้ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดตลาด Under ground cable เพื่อลดโลกร้อนซึ่งก็จะเป็นปัจจัยเสริมในการสร้างรายได้ในปีนี้