รฟท.คาดเลื่อนเปิดแอร์พอร์ตลิ้งค์เป็น 5 ธ.ค.52/ยังยากให้เอกชนเดินรถ

ข่าวทั่วไป Monday June 1, 2009 12:11 —SMS: IQ ข่าวทั่วไป

ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ยอมรับกำหนดเปิดเดินรถโครงการระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกับสถานีรับส่งผู้โดยสารภายในเมือง(แอร์พอร์ตลิ้งค์)คงต้องเลื่อนจาก 12 ส.ค.ไปเป็น 5 ธ.ค.52 เนื่องจากการจัดตั้งบริษัทเดินรถ รฟท.ล่าช้าออกไป ขณะที่ที่ปรึกษาวิศกรอิสระ(ICE)ยังไม่ได้ตรวจสอบระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล รวมทั้งมีแนวโน้มผู้รับเหมาจะขยายเวลาการก่อสร้าง

ส่วนการที่จะเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลบริหารการเดินรถตามแนวคิดของ รมช.คลังคงทำไม่ได้ในขณะนี้ เพราะ รฟท.กำหนดแผนงานตั้งแต่ต้นที่จะให้บริษัทเดินรถที่เป็นบริษัทลูกของ รฟท.เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถเอง และการเปิดให้เอกชนยังต้องเข้ากระบวนการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ซึ่งอาจทำให้กำหนดเปิดเดินรถยิ่งล่าช้าออกไป

"คือวิ่งไม่ทันก็ไม่เป็นไร เพราะรัฐบาลอาจจะมองว่าเปิดเร็วก็ขาดทุนเร็ว...แต่ถ้าเป้าหมายเปลี่ยนให้เอกชนมาวิ่ง คำตอบคือต้องนับหนึ่งใหม่ ต้องไปเคลียร์กับสหภาพ ต้องเข้าพ.ร.บ.ร่วมทุน ความเป็นไปได้ตรงนี้ถ้าถามผมว่ามี แต่ไม่ใช่วันนี้ เป็นเรื่องในอนาคต แต่ตอนนี้ต้องทำไปก่อนเพราะกำลังจะเสร็จ เพราะฉะนั้นเอกชนมีสิทธิเข้ามาเดินรถไหม มี แต่ไม่ใช่วันนี้" นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

ดังนั้น หากจะนำเอกชนมาเดินรถในขณะนี้คงจะกลายเป็นปัญหาถ่วงการเดินรถได้เพราะสหภาพพนักงงาน รฟท. คงไม่ยอม และต้องศึกษาเรื่องพ.ร.บ.ร่วมทุนอีก ขณะที่ รฟท.มีแผนจะว่าจ้างบริษัท Deutsche Bahn International(DBI) จากเยอรมัน เพื่อเดินรถสายแอร์พอร์ตลิ้งค์ ในช่วง 2 ปีแรกไปก่อน

นายยุทธนา กล่าวว่า ถ้าเปิดให้เอกชนเดินรถก็ต้องคุยกันตั้งแต่วันแรกที่สร้าง เพราะนโยบายเดิมของรัฐบาล โครงการนี้เป็นของรฟท.และรัฐจะลงทุนเองทั้งหมด แต่หากปรับแผนให้เอกชนมาร่วมทุนทำ ตุ้นทูนโครงการจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งควรจะตั้งบริษัทร่วมทุนเอกชนตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ฉะนั้น ขณะนี้ก็ยังเป็นแผนเดิมที่จะจ้างบริษัทที้ปรึกษาเดินรถก่อนพร้อมกับให้พนักงานเรียนรู้การเดินรถไปด้วยประมาณ 2 ปี

สำหรับแผนฟื้นฟูกิจการ รฟท.ขณะนี้ยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ฉะนั้น การจัดตั้งบริษัทลูก คือ บริษัทเดินรถ รฟท.จึงยังล่าช้าออกไป ขณะที่ ICE ก็ยังไม่สามารถออกไปตรวจสอบระบบความปลอดภัยได้ อีกทั้งบริษัทรับเหมาก็อาจจะใช้สิทธิขยายเวลาก่อสร้างอีก ถีงแม้ว่าตอนนี้มีความคืบหน้าไป 98% แต่ก็เกรงว่าจะไม่พร้อมส่งมอบงาน

"ตอนนี้เชื่อมั่นว่าเปิดไม่ได้แล้ว(12 สิงหาคม) เพราะบริษัทลูกยังไม่มี และยังไม่มีการทดสอบระบบที่ใช้เวลา 3 เดือน มีปัจจัยไม่เอื้อ เราก็เอาใหม่ว่าเป็นเดือนธันวาคมได้ไหม เป้าหมายอยากให้เปิดให้บริการเลย แต่นี่เป็นความตั้งใจ แต่นี่กรณี Best Case ผมอยากจะเปิดใจจะขาด แต่ในเมื่อสิงหาคมไม่ได้ก็ไปธันวาคม บริษัทลูกก็ยังไม่ได้ตั้งอีก แผนฟิ้นฟูไม่นำเข้าพิจารณา กระบวนการล่าช้าไป แต่ก็คิดว่าสัปดาห์หน้า ครม.จะพิจารณา"นายยุทธนา กล่าว

ตามแผนฟื้นฟูกิจการ รฟท.จะมีการแยกการบริหาร โดยจัดตั้งบริษัทลูก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัทเดินรถที่ รฟท.ถือหุ้น 100% และบริษัทบริหารสินทรัพย์ ซึ่งรวมถึงสัญญาเช่าพื้นที่กับเอกชน

อย่างไรก็ตาม ตามเป้าหมายใหม่ที่จะเปิดให้บริการแอร์พอร์ตลิ้งค์ในวันที่ 5 ธ.ค.นั้น ตอนนี้มีขบวนรถไฟฟ้าพร้อมแล้ว โดยมีจำนวนรถไฟฟ้า 31 ตู้ แบ่งเป็นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(เอ็กซ์เพรส ไลน์) 4 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ และรถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้บริการสถานีพญาไท-สุวรรณภูมิ 5 ขบวน ขบวนละ 3 ตู้ โดยวิ่งได้ 20-30 เที่ยว/วัน

อนึ่ง มีรายงานข่าวระบุว่ากลุ่มกิจการร่วมค้า บี.กริมม์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมี บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) เป็นแกนนำกำหนดว่างานก่อสร้างโครงสร้างงานโยธาและการติดตั้งระบบรางและระบบไฟฟ้าเครื่องกล(E&M)จะต้องเสร็จในต้นเดือน ส.ค.52 จากนั้นจะต้องมีการทดสอบการเชื่อมต่อระบบ(integrate)อีก 3 เดือน และมีกำหนดส่งมอบงานทั้งหมดอย่างเป็นทางการให้ รฟท.ในเดือน พ.ย.52


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ