โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.เอเซีย พลัส HOLD 10 บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ตาม Consensus 11 สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ซื้อ 10.60 (อยู่ระหว่างปรับขึ้น) บล.ทรีนีตี้ ซื้อ 11 บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ขาย 7 กว่า
นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส แนะ"ถือ"หุ้น บมจ.น้ำตาลขอนแก่น(KSL)โดยมองว่า ขณะนี้เป็นเรื่องราคาผลิตภัณฑ์(น้ำตาล)ขยับสูงขึ้นเป็นผลจากอินเดียมีการนำเข้าน้ำตาลเป็นครั้งแรกเนื่องจากซัพพลายในประเทศน้อยไม่เพียงพอกับการบริโภคในประเทศ ขณะที่บราซิลก็นำผลผลิตน้ำตาลไปทำเอทานอลมากขึ้น ทำให้ซัพพลายน้ำตาลในตลาดโลกเริ่มหายไปทำให้ราคาขยับขึ้น และยังน่าจะทำให้ราคาน้ำตาลสูงขึ้นไปอีกสักระยะหนึ่ง เพราะการผลิตอ้อยผลิตทำได้ปีละครั้ง
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาน้ำตาลถ้าปีหน้า หากไม่เกิดสถานการณ์ที่ทำให้ผลผลิตน้ำตาลเสียหาย แม้ว่าปีนี้จะมีราคาดี แต่ปีหน้าเมื่อผลผลิตออกมามาก ก็มีความเสี่ยงที่น้ำตาลในปีนี้ก็คงจะปรับลดลง ซึ่งเป็นตามวัฏจักร
ให้ราคาเป้าหมาย 10 บาท คิดว่าช่วงสั้นคงติด ถ้านักลงทุนมีอยู่แล้วก็แนะนำแค่"ถือ"
สถาบันวิจัยนครหลวงไทย มีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มผลประกอบการของ KSL ในปี 2552/53 เนื่องจากอุปทานน้ำตาลที่ประมาณการโดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มที่จะตึงตัวต่อเนื่องจากปี 2551/52 ทั้งนี้ อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการปี 2553 ขึ้นจากประเด็นดังกล่าว (มูลค่าเหมาะสมจากประมาณการเดิมของ KSL อยู่ที่ 10.60 บาท)
ทั้งนี้ จากข่าว KSL เจรจาส่งออกเอทานอลราว 30 ล้านลิตรต่อปีหรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาทต่อปีให้กับคู่ค้าในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2—3 เดือนข้างหน้า SCRI มีมุมมองที่เป็นบวกต่อประเด็นข่าวดังกล่าวว่าจะช่วยสนับสนุนธุรกิจเอทานอลของ KSL ได้
ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า หุ้นพลังงานทดแทนน่าสนใจยามราคาน้ำมันแพง เพราะราคาน้ำมันดิบได้ปรับขึ้นมาแล้ว 70%YTD เป็น 68 US$/bbl และมีแนวโน้มที่จะเป็นขาขึ้นอีก 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว การที่ต้นทุนพลังงานมีทิศทางที่จะสูงขึ้น ทำให้ตลาดเริ่มที่จะให้ความสนใจกับพลังงานทดแทนอีกรอบในกลุ่มนี้
บทวิเคราะห์ ระบุว่า ชอบ KSL เพราะบริษัทมีการขยายกำลังการผลิตเอทานอลจาก 40 เป็น 60 ล้านลิตร/ปี แล้วเสร็จกลางปี 53, ต้นทุนการผลิตเอทานอลที่ใช้โมลาสต่ำกว่าคู่แข่งขันที่ใช้มันสำปะหลัง และธุรกิจหลัก คือ ราคาน้ำตาลมีแนวโน้มแข็งแกร่ง เนื่องจากอุปทานตึงตัวในตลาดโลก ทำให้ราคาขยับขึ้นได้ในปี 52-53 ราคาเป้าหมาย ตาม Consensus เท่ากับ 11 บาท
ขณะที่ นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ช่วงนี้มีประเด็นที่ทำให้ราคาหุ้นปรับขึ้น เพราะจะมีไปโรดโชว์ปลายเดือนนี้ด้วยส่วนหนึ่ง และมีราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นด้วย ส่วนประเด็นเรื่องเอทานอล ราคาอ้างอิงอยู่ที่ 18 บาทแต่ล่าสุดราคาขายสูงกว่าราคาอ้างอิง อาจจะเป็นประเด็นที่ทำให้ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่การซื้อขายเอทานอลมีการล็อกราคาและปริมาณกันไปล่วงหน้าบ้างแล้ว อาจจะทำให้บริษัทไม่ได้รับประโยชน์แบบเต็มๆ จึงแนะขายที่ 7 บาทกว่า ๆ