โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.น้ำประปาไทย(TTW)มองรายได้และกำไรของบริษัทจะเติบโตในปีนี้และปีหน้า หลังจากที่ TTW เตรียมเข้าซื้อสิทธิในการดำเนินการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาและการให้บริการบำบัดน้ำเสียแก่ลูกค้าภายในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินระยะเวลา 30 ปีจากบริษัทที่ดินบางปะอิน จำกัด(BLDC) ขณะที่ธุรกิจเดิมก็ยังเติบโตได้ดี แต่ก็ยังมีความกังวลข้อร้องเรียนของสหภาพแรงงานของการประปาส่วนภูมิภาค
แต่โบรกเกอร์บางรายแนะ"ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว"เพราะเห็นราคาปรับขึ้นแรงแล้ว โดยเย็นวันนี้ ราคาหุ้น TTW เคลื่อนไหวที่ 4.46 บาท บวก 0.08 บาท โดยราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 4.58 บาท
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.ทิสโก้ ซื้อ 6.35 บล.ดีบีเอสฯ ซื้อ 5.72 บล.ธนชาต ซื้อ 5.60 บล.เอเซียพลัส ซื้อ 5.50 บล.ยูไนเต็ด ซื้อเมื่ออ่อนตัว 5.50
นักวิเคราะห์ จากบล.ยูไนเต็ด มองว่า ธุรกิจใหม่ที่ TTW จะดำเนินการในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ไม่ได้สร้างกำไรและมูลค่าหุ้นมาก แต่ราคาหุ้นกลับขึ้นไปมากนับตั้งแต่วันที่ประกาศข่าวซื้อสิทธิดังกล่าว(1 ม.ย.)จนถึงวันศุกร์(5 มิ.ย.)หรือช่วง 1 สัปดาห์ ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมาประมาณ 11% จากราคา 4.08 บาท แต่เมื่อผู้บริหารได้ชี้แจงกับนักวิเคราะห์แล้วได้มีการประเมินตัวเลขคร่าวๆ พบว่ามูลค่าหุ้นและกำไรจากธุรกิจไหม่มีไม่มาก
"มองว่าหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปรับข่าวเรื่องนี้ ขึ้นไปค่อนข้างเยอะแล้ว และจากการประเมินธุรกิจใหม่ไม่ได้ดีเท่ากับราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นไป ก็อาจทำให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาได้ เพราะหุ้นวิ่งไปเกินคาด" นักวิเคราะห์ กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้ฟังการชี้แจงของผู้บริหาร TTW เมื่อวานนี้ ในการประเมินเบื้องต้น คาดว่า TTW จะมีกำไรจาก BLDC ประมาณ 1 ล้านบาทในปี 52 และปี 53 เพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านบาท คิดเป็นเพียง 0.6%-0.9% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 52-53 ที่ 1,818 — 2,069 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.46-0.52 บาท อีกทั้งคาดว่ามูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 0.20 บาท/หุ้น ซึ่งไม่ค่อยมีนัยต่อการเพิ่มมูลค่าหุ้น จึงเห็นว่าหุ้นขึ้นมาแรงเกินไป คาดว่าราคาอ่อนตัวลงและน่าจะรอซื้อหลังจากนี้
อย่างไรก็ตาม ราคาเป้าหมายที่ประเมินไว้ 5.50 บาท ยังไม่ได้รวมธุรกิจใหม่เข้าไป และเห็นว่าธุรกิจปัจจุบันก็ยังไปได้ดีอยู่
ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)คาดว่า TTW จะมีกำไรสุทธิปี 53 เพิ่มขึ้น 2% จากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ และราคาตามพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.11 บาท ในความเห็นของฝ่ายวิจัยฯ การเข้าซื้อกิจการบำบัดน้ำฯครั้งนี้มีมูลค่าเพิ่มกับ TTW ไม่มาก โดยประมาณการ IRR ไว้ที่ 10.8% และระยะเวลาคืนทุน 12-13 ปี
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวเป็นการขยายฐานธุรกิจและเพิ่มกำไรสุทธิ แม้ว่ามูลค่าที่เพิ่มขึ้นจะไม่มากก็ตาม แต่ยังคงประมาณการกำไรสุทธิและราคาตามพื้นฐานของ TTW ไว้เท่าเดิมก่อน เนื่องจากดีลนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นก่อนจึงจะดำเนินการได้ โดยผู้บริหารคาดว่าการเข้าซื้อจะแล้วเสร็จเดือนก.ย.52
ส่วนบล.ธนชาต คาดว่าจากการเข้าซื้อสิทธิดังกล่าว คาดว่า IRR ของโครงการอยู่ที่ 11% และมี payback period 15 ปี และไม่มีการกำหนดปริมาณขายน้ำขั้นต่ำ แต่ไม่มีการให้บริการน้ำประปาจากรายอื่นๆ ในบริเวณดังกล่าว TTW คาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายจะอยู่ที่ราว 5% ต่อปี
บริษัทฯ คาดว่าค่าน้ำจะเพิ่มขึ้นราว 7% ทุก 5 ปี แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องได้รับการอนุญาตจาก BLDC และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งดีลนี้คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนส.ค.52
"ในมุมมองของเรา การลงทุนนี้จึงดูเหมือนว่าจะแพง แต่อย่างไรก็ตาม TTW อ้างว่า บริษัทฯ ใช้สมมติฐานที่ conservative แล้ว และโครงการนี้เป็นโครงการแรกในการขยายธุรกิจในบริการน้ำประปานอกพื้นที่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังขยายไปยังธุรกิจการให้บริการบำบัดน้ำเสียอีกด้วย"
ส่วนธุรกิจน้ำมี operating leverage ในระดับสูง ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลต่อกำไรอย่างมีนัยสำคัญ
ดังนั้นทาง บล.ธนชาตกำลังทบทวนประมาณการเพื่อรวมโครงการดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโครงการนี้ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนต่ำ จึงไม่คาดว่าประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายจะเปลี่ยนแปลงมากนัก ประกอบกับมีความกังวลในกรณีข้อร้องเรียนของสหภาพแรงงานของการประปาส่วนภูมิภาค
ขณะที่ บล.ทิสโก้ คาดว่าโครงการนี้จะเพิ่มผลประกอบการให้แก่ TTW โดยจะเพิ่มขึ้น 10-50 ล้านบาทใน 5 ปีแรกและ 60-100 ล้านบาทใน 5 ปีต่อไป โดยคาดว่าโครงการนี้มี IRR ประมาณ 7% ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของผู้บริหาร 11% เนื่องจากเรามีสมมติฐานที่ค่อนข้างเข้มงวดด้วยการไม่มีการเพิ่มค่าน้ำ ขณะที่ผู้บริหารคาดว่าค่าน้ำเพิ่มขึ้น 7% ในทุก ๆ 5 ปี
TTW ดำเนินธุรกิจผลิตน้ำประปาภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จำหน่ายให้กับ การประปาส่วนภูมิภาค เพื่อทดแทนการใช้น้ำบาดาลของภาคเอกชน โดยมีกำลังผลิตรวม 7.08 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน แบ่งเป็นส่วนของ TTW (3.2 แสนลบ.ม./วัน) พื้นที่ให้บริการในจังหวัดสมุทรสาครและนครปฐม ส่วนบริษัทย่อย น้ำประปาปทุมธานี-PTW (3.88 แสนลบ.ม./วัน) พื้นที่ให้บริการในพื้นที่เขตปทุมธานี-รังสิต จ.ปทุมธานี