นายอภิชาต นันทเทิม กรรมการบริหาร บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์)(AEONTS)คาดว่า ในปี 52 (สิ้นสุด ก.พ.53) ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)เฉลี่ยที่ระดับ 2.5-3.0% จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.7-2.8% โดยในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค.52 หรืองวดไตรมาส 1/52 ของบริษัท เนื่องจากสถานการณ์โดยรวมการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มกลับมาฟื้นตัว
ดังนั้น คาดหวังสถานการณ์ในครึ่งปีหลังจะมีทิศทางที่ดีขึ้นทั้งเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง จากครึ่งปีแรกที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบต่างๆ นอกจากนี้ ยังคาดว่ารายได้ของปี 52 จะเติบโตไม้น้อยกว่าปีก่อนที่มีอัตราเติบโต 10% โดยงวดปี 51 บริษัทมีรายได้ 9.4 พันล้นบาท
"ครึ่งปีหลังจะเป็นตัวชี้สถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไรจากครึ่งปีแรกที่ได้รับผลกระทบ ที่ขยายตัวแต่เป็นการขยายตัวที่ช้า ซึ่งหากทุกอย่าง ทั้งการเมือง เศรษฐกิจโลกคลี่คลาย ความมั่นใจก็จะกลับมาได้เอง" นายอภิชาต กล่าว
กรรมการบริหาร AEONTS ยอมรับว่า บริษัทมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยจะพิจารณาทั้งอาชีพของลูกค้า และฐานเงินเดือน ซึ่งช่วยแก้ปัญหา NPL ได้พอสมควรในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้ง บริษัทได้มีการปรับตัวล่วงหน้ามาก่อนหน้านี้แล้วทั้งการลดต้นทุนและการเพิ่มศูนย์จัดเก็บหนี้ โดยปัจจุบันมีอยู่ 4 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพ หาดใหญ่ เชียงใหม่ และ ขอนแก่น
ในเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ให้ความเข้มงวดในการปล่อยหนี้ในกทม.มากขึ้น เนื่องจากโรงงานหลายแห่งมีการเลิกจ้างงานพนักงาน ซึ่งปัจจุบันบริษัท มีลูกค้ากว่า 3 แสนราย โดยเป็นลูกค้าต่างจังหวัด 50-52% ที่เหลือเป็นลูกค้าในกทม.
นายอภิชาต กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาท โดยหลังจากนี้จะนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทพิจารณาในรายละเอียดรวมถึงช่วงจังหวะเวลาที่นำเสนอขาย โดยเบื้องต้นจะออกทั้งจำนวน 3 พันล้านบาท อายุ 3-5 ปี เพื่อใช้รีไฟแนนซ์และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีความจำเป็นเพิ่มทุน เพราะปัจจุบันบริษัทยังมีสภาพคล่องเพียงพอในการขยายกิจการแน่นอน โดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากบริษัทแม่