ผู้บริหาร บมจ.เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม(NEP)เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้บริษัทจะมีการปรับโครงสร้างการบริหารครั้งใหญ่ รวมทั้งมีข้อสรุปโครงการผลิตน้ำดื่มร่วมกับ บมจ.นวนคร(NNCL)ที่เริ่มใกล้ความจริงแล้ว โดยคาดว่าโครงการน่าจะเกิดได้ในปีนี้และก่อสร้างโรงงานในปีหน้า
"ที่แน่ ๆ ตอนนี้นโยบายบอร์ดจะ Restructure แล้ว เพราะเห็นว่าถ้าดูโครงสร้างรายได้หรือ Performance ที่ผ่านมาติดลบทุกเดือน จะมีกำไรได้ก็คือมาจากปันผลหรือผลกำไรที่ได้จาก บมจ.นวนคร(NNCL)เท่านั้น""นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการ NEP กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายนิพิฐ กล่าวว่า โครงสร้างของ NEP เอง ณ วันนี้เป็นบริษัทที่มีหนี้สินต่อทุน(D/E)ต่ำ เพียงแต่การบริหารไม่มีประสิทธิผล(Efficiency)จึงต้องมาพิจารณาว่าเร็ว ๆ นี้ อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริหาร รวมทั้งรื้อระบบปฏิบัติการ Operation ครั้งใหญ่เพื่อให้มีความกระชับขึ้น และเชื่อว่าหลังจากนี้น่าจะมีการปรับโครงสร้าง(Restructure)บริษัท ทั้งในแง่การเงินและทุกด้านเพื่อให้บริษัทสามารถกลับมามีกำไรโดยเร็ว และจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นได้
ปี 51 NEP ขาดทุน 82.62 ล้านบาท จากปีก่อนที่กำไร 39.05 ล้านบาท ปัจจุบันรายได้ของ NEP มาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ และอีกส่วนหนึ่งมาจากเงินปันผลจาก NNCL
สำหรับแผนงานการขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจผลิตน้ำดื่มร่วมกับ NNCL นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด คาดว่าจะเริ่มโครงการได้ภายในปีนี้ แต่การก่อสร้างโรงงานคงจะได้เห็นปี 53 และเชื่อว่าในอนาคตน่าจะเป็นแหล่งที่มาของรายได้ที่สำคัญอีกช่องทางหนึ่ง รวมทั้งโครงการในอนาคต คือ ธุรกิจเรียลเอสเตท อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลักของ NEP จะยังเป็นบรรจุภัณฑ์ แต่ในอนาคตอาจจะมีการแตกไลน์ออกไป
นายนิพิฐ กล่าวถึงกรณีที่บริษัทแจ้งกำหนดวันใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทตามใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์)ที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้น ล่าสุดครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 1-15 มิ.ย.52 นั้น ปรากฎว่าไม่มีผู้ใดมาใช้สิทธิ ทำให้คงเหลือวอร์แรนต์ NEP-W1 จำนวนทั้งสิ้น 1,437,624,580 หน่วย จากจำนวนที่ออกไปทั้งสิ้น 1,500,000,000 หน่วย อาจจะเป็นเพราะราคาหุ้น NEP ต่ำ ผู้ที่ถือวอร์แรนต์จึงไม่สนใจมาใช้สิทธิ ทั้ง ๆ ที่เปิดให้ใช้สิทธิมาแล้วหลายรอบ
"ถ้า Performance ดีราคาหุ้นสูงขึ้นคนก็คงอยากได้ อย่างไรก็ตาม วอแรนต์จำนวนนี้กำลังจะหมดอายุเนื่องจากกำหนดใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 15 กันยายน 2553"นายนิพิษฐ กล่าว
ขณะที่การเลื่อนชำระคืนหนี้จำนวน 6 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีให้แก่ NNCL นั้น นายนิพิฐ คาดว่าจะสามารถชำระคืนได้ตามกำหนดคือภายในวันที่ 10 ส.ค.52
อนึ่ง เมื่อเดือน พ.ย.51 บอร์ด NEP อนุมัติให้บริษัทกู้ยืมเงินจาก NNCL วงเงิน 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 7.5% เพื่อเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัท โดยมีกำหนดชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทั้งจำนวนในเดือน ก.พ.52 แต่ก็ได้ขอขยายเวลาชำระคืนหนี้ออกไปเป็น 10 ส.ค.52
เวลา 15.35 น. ราคาหุ้น NEP ปรับตัวเพิ่ม 2.78% มาที่ 0.37 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 0.01 บาท ปริมาณการซื้อขาย 133,964,900 หุ้น