นายสุวิทย์ มาไพศาลสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ภัทร(PHATRA)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/52 ของบริษัทฯคาดว่าจะออกมาดีกว่างวดไตรมาส 1/52 และธุรกิจหลักทรัพย์โดยรวมก็น่าจะมีการเติบโตที่ดีด้วย เนื่องจากวอลุ่มเทรดของตลาดรวมในช่วงไตรมาส 2/52 เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 20,000 ล้านบาท/วัน จากระดับ 8,000 ล้านบาท/วันในช่วงไตรมาส 1/52 และทั้งปีนี้คาดว่าวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมจะขยับขึ้นมาเฉลี่ยประมาณ 14,000 ล้านบาท/วัน
ขณะที่ส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทฯในงวดไตรมาส 2/52 อยู่ที่ประมาณ 4.6% ต่ำกว่าปีที่แล้ว(2551)ซึ่งอยู่ที่เกือบ 6% เป็นผลจากที่ปริมาณการซื้อขายของบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศที่มีมากขึ้น แม้ว่าถ้าดูจากลูกค้าเป็นรายกลุ่มจะเห็นว่าปริมาณยังเท่าเดิม โดยปัจจุบันลูกค้าสถาบันต่างประเทศมีสัดส่วน 11% และในประเทศมีสัดส่วน 12% ส่วนลูกค้ารายบุคคลจะมีสัดส่วนอยู่ 1.8-2%
"ปีนี้ตลาดฯคงจะผันผวน วันนี้มาร์เก็ตแชร์ต่ำกว่าปีที่แล้ว คงเป็นเพราะปริมาณซื้อขายส่วนที่เป็นสถาบันในประเทศ ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์เข้ามาอยู่ในตลาดฯเยอะ เวลาดูมาร์เก็ตแชร์โดยรวมก็จะเห็นว่ามีหลายคน drop ลงไป คนที่ได้เพิ่มก็เป็นคนที่อาจจะมีพอร์ตของตัวเองเข้าไปซื้อขายเยอะ ซึ่งเราก็ทำอันนั้นอยู่แล้ว แต่ถ้ามาดูในรายลูกค้าเราก็อยู่ในระดับเท่า ๆ เก่า"นายสุวิทย์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PHATRA กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นสามัญ(Derivative Warrant:DW) ซึ่งคาดว่าน่าจะออกได้ภายในไตรมาส 3/52 และทาง PHATRA ก็จะทำหน้าที่ในการเป็น Market Maker ด้วย
"การออก DW ตอนนี้อยู่ในขั้นของการเตรียมการ ในขั้น Final Stage แล้ว ก็หวังว่าจะออกได้ภายในไตรมาส 3/52 ซึ่งจริง ๆ ตลาดฯมีโอกาส หรือมีอะไร เราก็เตรียมตัวเองเอาไว้ให้พร้อม อย่างน้อยก็คิดว่าเรื่องที่จะออก ถ้าหากมีอันที่ 1 แล้วก็จะมีเรื่องอื่นต่อไป ผมเห็นว่ามันเป็นธุรกิจใหม่ และก็ไม่อยากจะไปประมาณการอะไร เราก็จะทำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PHATRA กล่าว
นายสุวิทย์ เปิดเผยอีกว่า ล่าสุด ทาง Finance Asia ใน Country Award ปี 2009 ได้เลือกให้ PHATRA เป็น Best Investment Bank และ Best Equity House และเป็น Best Broker เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา