โบรกฯเชียร์"ซื้อ"PS ได้สิทธิทางภาษีโครงการ BOI-ฐานะการเงินแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 19, 2009 11:55 —SMS: IQ ข่าวหุ้น

          โบรกเกอร์           คำแนะนำ            ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.เอเชีย พลัส         ซื้อ                  10.30
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์      ซื้อ                  10.00
          บล.ทิสโก้              ซื้อ                   9.10
          บล.ทรีนีตี้              ซื้อ                   9.10

นายเทอดศักดิ์ ทวีธีระธรรม บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า คาดการณ์กำไร PS ในปี 52 ที่ 2,807 ล้านบาท ปี 53 ที่ 2,988 ล้านบาท ขณะที่กำไรต่อหุ้น(EPS)ราว 1.29 ในปีนี้ และ 1.37 ในปีหน้า ขณะที่มองว่า PS เป็น Leader ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนแบ่งตลาด(Market Share)รวม 20% เป็นอันดับหนึ่ง สูงกว่า LPN และ LH ยิ่งในตลาดทาวน์เฮ้าส์ PS มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 69% ในไตรมาส 1/52 จากปกติจะแกว่งตัวอยู่ในช่วง 50% ขึ้นไป

นอกจากนี้ ยังได้รับประโยชน์จากมาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ ช่วยให้บริษัทได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีซึ่งช่วยลดรายจ่ายภาษีลงได้มาก อีกทั้งสินค้าก็เป็นสินค้าที่ PS มีอยู่ในตลาดแล้ว จึงไม่น่ามีปัญหาเรื่องการคุมต้นทุน

อีกทั้ง PS ยังเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้าเร็วที่สุด เช่น บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ใช้เวลาเพียง 109 วันก็สามารถส่งมอบได้แล้ว ส่วนเรื่องการเงินมีความแข็งแกร่งค่อนข้างมาก อัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)คาดว่าน่าจะต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม เพราะบริษัทมีการขยายธุรกิจอยู่เรื่อยๆ ภาระการสร้างหนี้สินต่ำ ขณะที่กระแสเงินสดเป็นบวก 812 ล้านบาท หาได้ยากในบริษัทใหญ่ๆที่ยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง

มีเพียงด้านการลงทุนในต่างประเทศเท่านั้นที่อาจจะยังไม่เห็นอะไรที่ชัดเจนมากนัก เร็วที่สุดคืออินเดียตอนนี้อยู่ในกระบวนการโอนที่ดินที่ซื้อมาแล้ว จึงจะเริ่มทำบ้านตัวอย่าง

"ในส่วนของราคาหุ้นก็ยังค่อนข้างถูกมาก เพราะถ้าดูตามฐานกำไรตอนนี้ ผมว่าพฤกษาฯ กำไรสูงสุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แต่ราคาหุ้น P/E ค่อนข้างต่ำกว่าพื้ฯบานมากเกินไป จึงแนะนำ "ซื้อ"

นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ กล่าวว่า ยอดขายสุทธิของ PS ในเดือน พ.ค.52 เพิ่มเป็น 1.9 พันล้านบาท เทียบกับ เม.ย.52 ที่ 1.0 พันล้านบาท ส่วนอีกหนึ่งข่าวดีคือ ยอดยกเลิกซื้อบ้านและยอดปฏิเสธการซื้อบ้านปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็น 26% QTD เทียบกับ 1Q52 และ 4Q51 ที่เป็น 28% และ 41% ตามลำดับ

นอกจากนี้ PS สามารถเพิ่มมาร์เก็ตแชร์อย่างต่อเนื่อง จาก 11% ในปี 47 มาเป็น 15% ในปี 51 และในไตรมาส 1/52 เพิ่มขึ้นมาสูงถึง 27% เนื่องจากบริษัทได้เปิดขายโครงการเชิงรุก อีกทั้งมีการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในจำนวนหน่วยที่เพิ่มขึ้นมาก

"แนะนำซื้อ ราคาหุ้นขณะนี้ก็ยังไม่แพง P/E ปี 52 เป็น 7.4 เท่า เราได้มีการปรับเพิ่มราคาพื้นฐานเป็น 10.00 บาท ซึ่งเท่ากับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของบริษัท(RNAV)และเทียบเท่า P/E ปี 52 ที่ 8.7 เท่า"นายสมบัติ กล่าว

ด้านนายเถลิงศักดิ์ ตันติพินธวัตร บล.ทรีนีตี้ คาดว่า ผลประกอบการของ PS ในช่วงไตรมาส 2/52 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี โดยคาดว่าจะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 1/52 ที่มีรายได้ 3,766 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายในไตรมาแสรกที่จะมารับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 2/52 ทำได้เพียงบางส่วน แต่ผลประกอบการจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 3/52 และไตรมาส 4/52

ปรับประมาณการรายได้และกำไรสุทธิของ PS ในปี 52 ขึ้น 12.9% และ 14.4% เนื่องจากบริษัทสามารถทำยอดขายได้ดีกว่าที่คาด โดยเราปรับเพิ่มรายได้ขึ้นจาก 11,672 ล้านบาท เป็น 13,172 ล้านบาท และลด Effective Tax Rate ลงจากเดิม 22% เป็น 20% เนื่องจากคาดว่าบริษัทจะเริ่มได้รับประโยชน์จากเงื่อนไขบ้าน BOI ใหม่ในไตรมาส 3/52 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีภาษีจ่ายลดลง

เราคาดว่าปี 52 บริษัทจะมีรายได้ 13,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% YoY และมีกำไรสุทธิ 2,495 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% YoY ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 52 ประมาณ 9,500 ล้านบาท เมื่อรวมรายได้ในไตรมาส 1/52 จำนวน 3,766 ล้านบาท จะส่งผลให้รายได้โตจากปี 51 ประมาณ 2%

"แนะนำเป็น "ซื้อ" โดยเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 5 บาท เป็น 9.1 บาท(PER 8 เท่า)เนื่องจากยอดขายที่ดีและมองว่าการปรับเงื่อนไขและราคาบ้าน BOI จะส่งผลดีในระยะยาวต่อบริษัทในอนาคตและช่วยทดแทนมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ที่จะหมดอายุในปีหน้าเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น

ขณะที่ บล.ทิสโก้ ให้มุมมองผ่านบทวิเคราะห์ว่า PS อยู่ในสถานะที่ได้รับประโยชน์จากอัตราภาษีนิติบุคคลที่ลดลงตามเงื่อนไขใหม่ของ BOI เนื่องจากสัดส่วนรายได้บ้านภายใต้ BOI คิดเป็น 20-25% ของรายได้จากการขายของบริษัทในช่วงปี 2548-51 เราปรับขึ้นประมาณการผลประกอบการเพื่อสะท้อนอัตราภาษีที่ลดลง และยังคงแนะนำ"ซื้อ"ตามราคาเป้าหมาย 9.10 บาท (PER 7.5 เท่าปี 2552F)อิงจากผลิตภัณฑ์ที่มีหลายระดับราคา,เทคนิคการก่อสร้างที่รวดเร็ว และสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ BOI ปรับเงื่อนไขบ้านที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จาก 600,000 บาท/ยูนิต มาอยู่ที่ 1 ล้านบาท/ยูนิต โดยจะต้องเป็นผู้ประกอบการที่จัดสรรที่อยู่อาศัยไม่น้อยกว่า 50 ยูนิตสำหรับทุกพื้นที่, โครงการที่ตั้งในโซน 1 การก่อสร้างอาคารชุด จะต้องมีพื้นที่ใช้สอย/ยูนิตไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตรและจำหน่ายยูนิตละไม่เกิน 1 ล้านบาท และ กรณีการก่อสร้างบ้านแถวหรือบ้านเดี่ยวจะต้องมีพื้นที่ใช้สอยต่อยูนิตไม่น้อยกว่า 70 ตารางเมตร และจำหน่ายในราคายูนิตละไม่เกิน 1.2 ล้านบาท

ทิสโก้ ปรับขึ้นประมาณการผลประกอบการปี 52 ขึ้น 5% มาที่ 2.69 พันล้านบาท อัตรากำไรสุทธิของ PS ที่เพิ่มขึ้นจะมาจากอัตราภาษีนิติบุคคลใหม่ที่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 20% อิงจากสัดส่วนบ้าน BOI ที่เพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ