บมจ.สาลี่อุตสาหกรรม (SALEE ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทขายหุ้นจำนวน 30% ในบริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด ให้แก่ผู้ร่วมทุนรายใหม่จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คือ บริษัท Pago Holding AG (PAGO)
โดยซื้อหุ้นเดิมจำนวน 1,482,353 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ที่บมจ.สาลี่อุตสาหกรรม ถือในบริษัทสาลี่ พริ้นท์ติ้ง และซื้อหุ้นเพิ่มทุนใหม่ที่บริษัทสาลี่ พริ้นท์ติ้งออกให้จำนวน 1,482,353 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
ทั้งนี้ จะกำหนดราคาซื้อหุ้นเท่ากันทั้งสองส่วน โดยคาดว่าจะได้รับเงินจากการขายหุ้นดังกล่าวทั้งหมดประมาณ 130 - 140 ล้านบาท โดย 50% ของจำนวนดังกล่าว จะจ่ายให้แก่ บมจ.สาลี่อุตสาหกรรม จากการซื้อหุ้นเดิม และอีก 50% จะจ่ายให้แก่บริษัทสาลี่ พริ้นท์ติ้ง สำหรับการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ออกให้ อย่างไรก็ตาม ราคาจ่ายซื้อที่แน่นอนต้องรอตัวเลขหนี้สินทางการเงินสุทธิ (Net Financial Debts) ตามงบการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 ก่อน โดยผู้ซื้อจะชำระเงินเต็มทั้งจำนวน
โดยจำหน่ายหุ้นสามัญเดิมบางส่วนของบริษัทสาลี่ พริ้นท์ติ้ง ที่ บมจ.สาลี่อุตสาหกรรม ถืออยู่ จำนวน 1,482,353 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ในราคาประมาณหุ้นละ 45-50 บาท รวมมูลค่าประมาณ 65-70 ล้านบาท และหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทสาลี่ พริ้นท์ติ้ง ที่ออกให้จำนวน 1,482,353 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ในราคาขายประมาณหุ้นละ 45-50 บาท รวมมูลค่าประมาณ 65-70 ล้านบาท
ทั้งนี้ใช้เกณฑ์พิจารณาจากความสามารถในการทำกำไรของบริษัทสาลี่ พริ้นท์ติ้ง แล้วจึงกำหนดมูลค่ากิจการที่ 468 ล้านบาท และหักด้วยหนี้สินทางการเงินสุทธิที่มีอยู่ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ คือ ผลกำไรจากการขายหุ้นเดิมบางส่วนที่ถือในบริษัทสาลี่ พริ้นท์ติ้ง และผลตอบแทนในระยะยาวในรูปของ เงินปันผล และการเกื้อหนุนต่อการขยายธุรกิจของบริษัทสาลี่ พริ้นท์ติ้ง ทั้งในด้านฐานลูกค้าที่เป็นบริษัท ข้ามชาติจากผู้ร่วมทุนใหม่ และความรู้ด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ
อนึ่ง PAGO จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นผู้นำระดับโลกด้านการผลิตฉลากผลิตภัณฑ์ โดยจัดตั้งขึ้นมา กว่า 100 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1896 และมีโรงงานอยู่ในหลายประเทศ อาทิ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมันนี ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ โรมาเนีย และอิตาลี เป็นต้น ด้วยจำนวนคนงานกว่า 1,200 คน และยอดขายในปี 2551 กว่า 263 ล้าน สวิตฟรังก์ (CHF) หรือประมาณกว่า 8,200 ล้านบาท