โบรกเกอร์ ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"หุ้น ธนาคารทิสโก้(TISCO)มองสินเชื่อในปีนี้เติบโตได้สูงกว่าแบงก์อื่น และในอีก 1-2 ปีก็ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตสินเชื่อ ขณะที่ส่วนส่วนต่างดอกเบี้ย(NIM)ปีนี้คาดว่าได้ระดับ 4% และยังมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.50 บาทสำหรับหุ้นสามัญ อย่างไรก็ดี ปีนี้คาดว่าธนาคารต้องตั้งสำรองด้วยค่า NPA ในครึ่งปีหลังราว 500 ล้านบาท เป็นไปตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แต่คาดว่าจะขาย NPA ได้และกลับมาโอนกลับได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ดี บางโบรกเกอร์มองว่าธุรกิจเช่าซื้อในครึ่งปีหลังจะย่ำแย่ และราคาหุ้น TISCO ได้สะท้อนข่าวดีไปหมดแล้ว จึงเห็นว่าไม่ควรลงทุน
ปิดเที่ยงนี้ ราคา TISCO อยู่ที่ 18.60 บาท ลบ 0.60 บาท (-3.12%) โดยราคาลงไปต่ำสุดที่ 18.60 บาท และขึ้นไปสูงสุดที่ 18.80 บาท โดยราคาได้ปรับขึ้นไปสูงสุดในรอบปีนี้ แตะที่ 19.70 บาท เมื่อ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.เคจีไอ ซื้อ 23.00
บล.ฟินันซ่า ซื้อ 21.00
บล.ดีบีเอสฯ ซื้อ 21.70
บล.กิมเอ็ง ทยอยสะสม 20.20
บล.บัวหลวง ขาย -
นายวรวัฒน์ สายสุพัฒน์ผล นักวิเคราะห์ จาก บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)มองว่า สินเชื่อของ TISCO ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้สินเชื่อจะเติบโตมากกว่า 10% เทียบกับอุตสาหกรรมปีนี้ที่คาดว่าสินเชื่อเติบโต 0-3% และในครึ่งปีหลังก็มีแนวโน้มฟื้นตัวได้บ้าง
ส่วนต่างดอกเบี้ย(NIM)อยู่ในระดับก็ยังอยู่ดี คาดว่าปีนี้เดิมคาดอยู่ที่ 3.76% ปรับเพิ่มเป็น 4% โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมา TISCO มีส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ประมาณ 4% และในปี 53 ปรับขึ้นเป็น 3.8% จากเดิมคาดไว้ 3.6% อย่างไรก็ดี ในระยะยาวอาจมีแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น แต่ก็ได้รวมเรื่องนี้ไว้แล้วในผลประกอบการแล้ว รวมทั้งรายได้จากธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ก็ปรับตัวดีขึ้น
"ส่วนมากการเติบโตของ TISCO ส่วนใหญ่เป็นการเติบโตจากสินเชื่อเช่าซื้อ ถึงแม้ผลประกอบการปีนี้จะออกมาดูดี ไม่ว่ามาร์จิ้นสูง Loan Growth ก็ดี Income ก็เริ่มฟื้น"นายวรวัฒน์ กล่าว
แต่คาดว่ากำไรปีนี้อาจจะแค่ทรงตัวจากปีที่แล้วเท่านั้น เนื่องจากบริษัทฯ อาจมีผลขาดทุนจากการบันทึกสำรองเพิ่มอีกอาจถึง 500 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 50% ของมูลค่า NPA ที่ประมาณ 1 พันล้านบาทเพื่อให้เป็นไปตามกฎของ ธปท.เกี่ยวกับการบริหารจัดการ NPA ที่มีอายุ
ทั้งนี้ แนวโน้มอนาคต TISCO มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องใน 1-2 ปีข้างหน้า จากปัจจัยพื้นฐานที่ดีของ TISCO กล่าวคือ ส่วนต่างดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น สินเชื่อขยายตัวดี การควบคุมต้นทุนดี การบริหารคุณภาพสินทรัพย์ดี เราปรับเพิ่มกำไรของ TISCO อีก 7.6% ในปี 53 และ 5.4% ในปี 54
ส่วนบทวิเคราะห์ของ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุว่า TISCO รายงานยอดสินเชื่อคงค้าง ณ วันที่ 31 พ.ค. 52 ไว้ที่ 108,807 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 472 ล้านบาท หรือ 0.44% จากสิ้นเดือน เม.ย. 52 เป็นเพียงธนาคารเดียวที่สินเชื่อขยายตัวต่อเนื่องตลอดเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้สินเชื่อ 5 เดือนแรกขยายตัวรวม 7.17% หรือเพิ่มขึ้น 7.3 พันล้านบาท จากสิ้นปีก่อน
แม้ยอดขายรถยนต์ใหม่จะลดลง แต่สินเชื่อเช่าซื้อของธนาคารยังเติบโตได้ดี เนื่องจากการเข้าซื้อกิจการบริษัท ไพรมัส ลีสซิ่ง จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในเครือ ฟอร์ด มาสด้า และวอลโว่ ส่งผลให้ market share ในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ต่ำกว่า 10% เป็น 40-50%
ทางด้านเงินฝากมียอดคงค้าง ณ วันที่ 31 พ.ค. 52 อยู่ที่ 62,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,645 ล้านบาท หรือ 6.19% จากสิ้นปีก่อน จากปริมาณเงินฝากที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าเงินให้กู้ยืมในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากเพิ่มขึ้นจาก 172.5% ณ สิ้นปี 51 มาอยู่ที่ 174.0% ณ สิ้นเดือน พ.ค. 52 สะท้อนให้เห็นถึงสภาพคล่องที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย
"สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ได้ประโยชน์ทางด้านมาร์จิ้นในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาลง อีกทั้งสินเชื่อของธนาคารยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องแม้ว่ายอดขายรถยนต์จะชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจก็ตาม คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่เพียง 2.8% นอกจากนี้ ธนาคารสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลที่สูง ดังนั้น เรามองว่า TISCO เป็นหุ้นธนาคารขนาดเล็กที่น่าสนใจ"บทวิเคราะห์ ระบุ
ธนาคารประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 52 ให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท และผู้ถือหุ้นสามัญในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท โดยมีวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 มิ.ย. 52 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 13 ก.ค. 52
ด้านนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บัวหลวง เห็นว่า แนวโน้มครึ่งปีหลัง TISCO จะมีผลประกบอการไม่ค่อยดี เพราะมองว่าธุรกิจเช่าซื้อมีความเสี่ยง แม้ว่าครึ่งปีแรกยังเติบโตได้ดี แต่เป็นเพราะเข้าซื้อพอร์ตของบริษัท ไพรมัส ลีสซิ่ง จำกัด จึงเห็นว่าไม่ได้เป็นการเติบโตด้วยตัวเอง
"ราคา TISCO Perform ดี เพราะเขาการันตี yield ไว้ แต่เราแนะนำขาย จึงไม่มีราคาเป้าหมาย เพราะเราดูครึ่งปีหลังจะแย่ ในแง่ default Hire purchase(สินเชื่อเช่าซื้อ) มองแล้วมีความเสี่ยง" นายชัยพร กล่าว
โดยปกติ TISCO จ่ายเงินปันผล 1 บาท/หุ้น/ปี แต่ปีนี้บริษัทได้นำเงินปันผลจากปลายปีมาจ่ายต้นปีกับกลางปี ทำให้yield อยู่สูง ซึ่งดูอนาคตไม่ค่อยดี ที่ผ่านมาเราดู dividend yield อย่างเดียว ซึ่งก็ราคาหุ้นสะท้อนไปหมดแล้ว