ธนาคารกรุงไทย(KTB)เผย 5 เดือนแรกของปีนี้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อแล้วกว่า 160,000 ล้านบาท ทำให้สินเชื่อโต 4% และยังเชื่อว่าปีนี้สินเชื่อจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย ขณะที่ยังปล่อยกู้ให้ธุรกิจส่งออกในการทำ Packing Credit เกือบ 5 หมื่นล้านบาท ส่วนธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวปล่อยกู้ไป 2 พันกว่าล้านบาท เชื่อเป็นธุรกิจที่มีอนาคต
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ KTB กล่าวว่า ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อให้กับทุกภาคธุรกิจที่มีศักยภาพ แม้แต่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกและการระบาดของไข้หวัด 2009 โดยขณะนี้ธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจส่งออกในการทำ Packing Credit ไปแล้วจำนวน 49,974 ล้านบาท ส่วนธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว ซึ่งเป็นธุรกิจที่ธนาคารเชื่อมั่นว่ามีอนาคต ธนาคารได้ปล่อยกู้ไปแล้วจำนวน 2,535 ล้านบาท
“สำหรับธุรกิจที่ประสบปัญหา ธนาคารได้ให้การดูแลเป็นพิเศษ เช่น ผ่อนปรนไม่ต้องชำระเงินต้นจนกว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมจะเข้าสู่ภาวะปกติ ยืดตารางการชำระหนี้ให้เหมาะสมกับธุรกิจ ผ่อนปรนเงื่อนไขอัตราส่วนทางการเงินที่ให้ลูกค้าดำรง เช่น อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ ทั้งนี้เพื่อประคับประคองให้ลูกค้าสามารถผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ และเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ธุรกิจเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ”
เศรษฐกิจในครึ่งปีหลังมีสัญญาณที่ดีขึ้น และการที่เศรษฐกิจของประเทศจะฟื้นตัว ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สำหรับแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งนั้น ธนาคารให้การสนับสนุนเต็มที่ เพราะจะเป็นตัวเร่งที่สำคัญให้เกิดการลงทุนในภาคเอกชน ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและผู้บริโภค ทำให้เกิดความต้องการขึ้นในประเทศ สินเชื่อเพื่อการก่อสร้างจะขยายตัว ที่สำคัญจะช่วยหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวในอนาคต
ทั้งนี้ ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคมที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทยได้ปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจ SMEs ไปแล้ว 30,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 6,000 ล้านบาท ส่วนโครงการกรุงไทย SMEs เพื่อนแท้แก้วิกฤต ซึ่งเป็นสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันนั้น ธนาคารตั้งวงเงินไว้ 40,000 ล้านบาท ขณะนี้ปล่อยไปแล้ว 3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้ปล่อยกู้โดยตรงให้กับภาครัฐเพื่อลงทุนในสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ ไปแล้ว 64,000 ล้านบาท และทั้งปีคาดว่าจะทำได้ 174,000 ล้านบาท สำหรับสินเชื่อลูกค้ารายย่อยปล่อยกู้ไปแล้ว 30,000 ล้านบาท ทำให้ยอดสินเชื่อบุคคลของธนาคารเพิ่มเป็น 300,000 ล้านบาท