นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส(RS)เปิดเผยว่า ค่ายอาวอง ในเครือ RS ปรับกลยุทธ์ธุรกิจภาพยนตร์ ด้วยการโละทีมงานเก่าและเสริมทีมงานใหม่เกือบทั้งหมด เพื่อความกระชับ ควบคุมต้นทุน ลดความเสี่ยง และยังเพิ่มอิสระในการทำงาน โดยเพิ่มโอกาสให้โปรดิวเซอร์และผู้กำกับในวงการสามารถเสนอโปรเจ็คเข้ามาเพื่อร่วมงานอย่างเปิดกว้างกับบริษัทมหาชน
ค่าอาวองจะอยู่ภายใต้การดูแลของนายคมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สกายไฮ เน็ตเวิร์ค จำกัด โดยค่ายอาวองจะมีธุรกิจหลากหลายขึ้น อาทิ Production House ผลิตละคร มิวสิควีดีโอ ภายใต้กลยุทธ์"คล่องตัว-อิสระ-หลากหลาย" และบริษัทมั่นใจจะสามารถควบคุมต้นทุนได้ดี
"การปรับโครงสร้างธุรกิจภาพยนตร์ครั้งนี้ ถือเป็นส่วนที่จะทำให้โมเดลธุรกิจของอาร์เอสให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งสู่การเป็นเครือข่ายความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ หรือ The Entertainment Network ภายใต้นโยบายการบริหารสินทรัพย์ 360 องศารอบตัว และคาดว่าสิ้นปี 52 ธุรกิจภาพยนตร์จะทำรายตามเป้าที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน"นายสุรชัย กล่าว
RS ตั้งเป้าหมายว่าปี 52 ธุรกิจภาพยนตร์จะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท คิดเป็น 8% ของรายได้รวม
ด้านนายคมสันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเปลี่ยนโมเดลธุรกิจภาพยนตร์แล้วจะทำให้หลักในการดำเนินธุรกิจดีขึ้น ทั้งการลดต้นทุนการผลิต การจัดจำหน่าย และหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจภาพยนตร์ของ RS คือ การเฟ้นหาโปรดิวเซอร์และผู้กำกับทั้งมืออาชีพและหน้าใหม่เข้ามาร่วมงาน แทนบุคคลากรระดับหัวหน้าชุดเก่าที่โบกมือลาไปหลายตำแหน่ง
ล่าสุดองอาจ สิงห์ลำพอง ผู้กำกับละคร"DADDY DUO คุณพ่อจอมเฟี้ยว" คือรายหนึ่งที่จะเข้ามาร่วมงานกำกับภาพยนตร์ด้วย แต่ตอนนี้การดำเนินการยังไม่เรียบร้อย จึงยังเปิดรายละเอียดได้ไม่มาก
"อาร์เอสมีแผนจะทำภาพยนตร์ออกฉายอีกปีละ 4-5 เรื่อง จึงจำเป็นต้องมีผู้กำกับเข้ามาร่วมงานเพิ่มเติมอีก โดยภาพยนตร์ที่เราทำต้องได้เงินมากกว่าได้กล่อง แต่ที่เราอยากได้ผู้กำกับรุ่นใหม่ เพราะเราอยากได้ความสดใหม่ ด้านความคิดสร้างสรรค์ แต่ให้เลือกเราก็คงเอาทั้งเงินและกล่อง แต่เราคงเลือกเงินก่อน"นายคมสันต์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้ ปี 53 อาร์เอสมีเป้าหมายจะส่งภาพยนตร์ออกฉายอย่างน้อย 4 เรื่อง เท่ากับปีนี้ที่มีภาพยนตร์ออกฉายทั้งหมด คือ ซุปเปอร์แหบแสบสะบัด, โหดหน้าเหี่ยว, ม.3 ปี 4 เรารักนาย และ แฟนเก่า ซึ่งจะเข้าฉายวันที่ 27 ส.ค.นี้ และปีหน้าอาร์เอสจะมีละครออกอากาศทางโทรทัศน์อีก 4 เรื่อง