โบรกฯเห็นพ้องแนะ"เทรดดิ้ง"หุ้น บล.บัวหลวง(BLS)ถ้าภาวะตลาดโดยรวม active มาก ๆ โดยยังชูหุ้น BLS เป็น Top pick ตัวหนึ่ง
แต่ในแง่การวิเคราะห์ตามปัจจัยพื้นฐาน โบรกฯส่วนใหญ่ มองว่า ราคาหุ้น BLS ในปัจจุบันได้ปรับตัวขึ้นสูงเกินราคาเป้าหมายแล้ว อีกทั้งบางโบรกฯยังคาดว่าภาวะตลาดหุ้นไทยอาจจะเกิดการปรับตัวลงในช่วงไตรมาส 3/52 พร้อมเห็นว่าราคาหุ้น BLS ตอนนี้ได้รับรู้ข่าวดีไปเรียบร้อยแล้ว จากการปรับตัวดีขึ้นของตลาดโดยรวม
ทั้งนี้ ได้ประมาณการกำไรสุทธิของ BLS ในปีนี้ไว้ที่ 122-246 ล้านบาท บนสมมติฐานวอลุ่มของตลาดโดยรวมปีนี้เฉลี่ยที่ 12,000-16,204 ล้านบาท/วัน ส่วนมาร์เก็ตแชร์ของ BLS ในปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 3.9-4.1% ส่วนรายได้จากธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ คาดว่ารายได้ในส่วนของค่าธรรมเนียมและบริการในปี 52 ลดลงเล็กน้อยเท่านั้นมาอยู่ที่ 101 ล้านบาท
ขณะที่ปีก่อน(2551)ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 136 ล้านบาท มีวอลุ่มเทรดเฉลี่ยอยู่ที่ 16,118 ล้านบาท/วัน และมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 3.97% โดยในปีที่แล้ว BLS ได้มีการสำรองหนี้ไว้ค่อนข้างมากประมาณ 78 ล้านบาท
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 10.24 บล.ฟาร์อีสท์ ซื้อเก็งกำไร 15.80 บล.ทิสโก้ ขาย 7.6 บล.เกียรตินาคิน ขาย 8.10 บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ขาย 8.00 บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ขายทำกำไร 10.5
น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า หากภาวะตลาดโดยรวม active มาก ๆ นักลงทุนก็สามารถที่เข้ามาเล่น"เทรดดิ้ง"หุ้น BLS ได้ เพราะหุ้น BLS ก็ยังถือว่าเป็น Top pick ของฝ่ายวิจัยด้วยตัวหนึ่ง รองจากหุ้นบล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)(KEST)
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยได้ประมาณการกำไรสุทธิของ BLS ในปีนี้ไว้ที่ 160 ล้านบาท ด้วยสมมติฐานวอลุ่มของตลาดโดยรวมเฉลี่ยที่ 13,000 ล้านบาท/วัน ซึ่งกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(2551)ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 136 ล้านบาท เนื่องจากปีที่แล้ว BLS ได้มีการสำรองหนี้ไว้ค่อนข้างมากประมาณ 78 ล้านบาท ส่วนมาร์เก็ตแชร์ของ BLS ในปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 4.1%
อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยอาจจะมีการทบทวนประมาณการของ BLS อีกครั้ง เนื่องจากในช่วงไตรมาส 2/52 ที่ผ่านมาวอลุ่มของตลาดโดยรวมมีการปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งหากมีการปรับวอลุ่มของตลาดโดยรวมในปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท ก็คาดว่าจะปรับประมาณการกำไรสุทธิของ BLS ในปีนี้ขึ้นมาอยู่ที่ 246 ล้านบาท และราคาเป้าหมายก็จะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 12.30 บาท/หุ้น
ณ ราคาหุ้น BLS ในปัจจุบันอยู่ที่ 12 บาท ก็ถือว่า"เต็มมูลค่า"แล้ว โดยระดับราคาหุ้น BLS ในปัจจุบันได้มีการรับรู้ข่าวดีไปเรียบร้อยแล้ว จากการปรับตัวดีขึ้นของตลาดโดยรวม ซึ่งทำให้ราคาหุ้น BLS ปรับตัวขึ้นมาสูงเกินราคาเป้าหมายเดิมที่ได้ทำไว้ที่ 8 บาท/หุ้นแล้ว
ขณะที่ บล.ฟาร์อีสท์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ในช่วงที่ผ่านมาของปี 52(สิ้นสุด 12 มิ.ย.52)ส่วนแบ่งการตลาดของ BLS อยู่ที่ 3.90% หรือลดลงเล็กน้อยราว 0.07% YTD เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 51 ที่ระดับ 3.97% ขณะที่ในช่วง 46 วันทำการของ 2Q52 อยู่ที่ 3.85% สะท้อนให้เห็นว่าส่วนแบ่งการตลาดของ BLS เริ่มสร้างฐานที่บริเวณ 3.90% ได้อย่างแข็งแกร่งแล้ว จึงคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดเฉลี่ยทั้งปี 52 ของ BLS น่าจะอยู่ที่ระดับ 3.90%
นอกจากนี้ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในช่วง 46 วันทำการของ 2Q52 ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญราว 147.67% QoQ ที่ 21,922 ล้านบาท/วัน คาดว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในปี 52 จะอยู่ที่ระดับ 16,204 ล้านบาท/วันได้ ซึ่ง ณ ระดับส่วนแบ่งการตลาดของ BLS ที่ 3.90% คาดว่ารายได้จากค่านายหน้าในปี 52 ของ BLS จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.75% YoY มาอยู่ที่ราว 741 ล้านบาท
ขณะที่รายได้จากธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ BLS คาดว่าจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ราว 4 ดีลใน 2H52 ทำให้คาดว่ารายได้ในส่วนของค่าธรรมเนียมและบริการของ BLS ในปี 52 ลดลงเล็กน้อยเท่านั้นมาอยู่ที่ 101 ล้านบาท โดยเราคาดการณ์รายได้รวมของ BLS ในปี 52 ไว้ที่ 944 ล้านบาทหรือลดลงราว 1.11% YoY
จากแนวโน้มการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ(Provision)จากธุรกิจ Margin Loan และ Impairment Loss ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับ TSFC ที่คาดว่าจะหายไป จากภาวะของตลาดหุ้นไทยโดยรวมที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ในปี 51 BLS มีการการตั้ง Provision เข้ามาราว 78 ล้านบาท และ Impairment Loss ราว 7.5 ล้านบาท ทำให้คาดว่า ณ สิ้นปี 52 กำไรสุทธิของ BLS จะอยู่ที่ 235 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 72.38% YoY โดย EPS เท่ากับ 1.31 บาทต่อหุ้น ขณะที่ ROAE จะอยู่ที่ระดับ 16.98%
นายพลสิทธิ์ ตันฑ์พูนเกียรติ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ ให้เหตุผลของคำแนะนำให้"ขาย"หุ้น BLS ว่า เนื่องจากราคาปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงกว่าราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ที่ 7.6 บาท/หุ้น และคาดว่าภาวะตลาดหุ้นไทยอาจจะเกิดการปรับตัวลงในช่วงไตรมาส 3/52 แต่ถ้าตลาดฯดี ๆ นักลงทุนก็สามารถที่เข้ามาเล่นเทรดดิ้งตามรอบได้เช่นกัน
"มองตลาดโดยรวมยังเป็นขาลง แต่การปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมามองว่าเป็นเพียงแค่ช่วงสั้น มองขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. มาจนถึงตอนนี้มันน่าจะใกล้จบแล้ว และคาดว่าช่วงไตรมาส 3/52 ตลาดฯน่าจะปรับตัวลง ดังนั้น หากนักลงทุนจะเข้าไปไล่ซื้อก็จะมีความเสี่ยง"นายพลสิทธิ์ กล่าว
นักวิเคราะห์ฯ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า วอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมในปีนี้(2552)คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 12,500 ล้านบาท/วัน บนสมมติฐานค่า P/E ของตลาดฯเฉลี่ยที่ 8.5 เท่า และมาร์เก็ตแชร์ของ BLS ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 3.9% ซึ่งต่ำกว่าปีที่แล้ว(2551)ที่มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 3.97% และมีวอลุ่มเทรดเฉลี่ยอยู่ที่ 16,118 ล้านบาท/วัน
ทั้งนี้ ได้ประมาณการกำไรสุทธิของ BLS ในปีนี้ไว้ที่ 137 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว(2551)ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 136 ล้านบาท ซึ่งในปีที่แล้ว BLS ได้มีการสำรองหนี้ฯไปจำนวน 78 ล้านบาท ปีนี้คิดว่าไม่น่าจะมีส่วนนี้
น.ส.ดาวดี ธีรอภิศักดิ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยยังคงตั้งสมมติฐานวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมเฉลี่ยในปีนี้ที่ 12,000 ล้านบาท/วัน คาดว่าจะมีกำไรสุทธิปีนี้ที่ 122 ล้านบาท น้อยกว่ากำไรสุทธิของปี 2551 ที่มี 136 ล้านบาท ส่วนมาร์เก็ตแชร์ประมาณการปีนี้ไว้ที่ 3.9% ลดลงจากปี 2551 ที่มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 3.97%
ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยคิดว่าจะทำการปรับประมาณการใหม่อีกครั้งภายหลังสิ้นสุดงวดไตรมาส 2/52 แล้ว เนื่องจากขณะนี้เห็นว่าประมาณการวอลุ่มของตลาดโดยรวมเฉลี่ยต่อวันในปีนี้ที่ทำไว้ดูจะน้อยเกินไป เนื่องจากในช่วงไตรมาส 2/52 วอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมได้ขยับขึ้นมาค่อนข้างดี "แต่ก็ไม่รู้ว่าครึ่งปีหลังวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมจะแย่หรือเปล่า ดูอย่างงวดไตรมาส 1/52 กับไตรมาส 2/52 วอลุ่มเทรดของตลาดฯต่างกันสุดขั้ว แต่ถ้าตลาดฯดี วอลุ่มเข้ามาก นักลงทุนก็สามารถที่จะเข้ามาเล่นเทรดดิ้งตามรอบได้เช่นกัน"น.ส.ดาวดี กล่าว