บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะทยอยขายทำกำไรหุ้น TOP และ PTTAR เมื่องบออกแล้วเปลี่ยนมาเก็งกำไร BCP แทน แม้จะเชื่อว่าผลกำไรไตรมาส 2/52 ที่คาดว่าโรงกลั่นจะมีกำไรสูงสุดในรอบปีนี้ (จากผลกำไรสต๊อกน้ำมันและราคาปิโตรเคมีที่พุ่งขึ้นมามาก) จะเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนราคาหุ้นได้ในระยะสั้น แต่คาดว่าราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่ได้ปรับตัวขึ้นมาสะท้อนปัจจัยดังกล่าวไประดับหนึ่งแล้วมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงได้ ตามค่าการกลั่นที่ยังอ่อนแอและราคาปิโตรเคมีที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงในไตรมาส 3/52 จากกำลังการผลิตใหม่ที่จะทยอยเข้ามาในภูมิภาค จากผลดังกล่าวทำให้เชื่อว่า spread margin ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในสายอะโรเมติกส์มีแนวโน้มที่จะปรับลดลงมากอีกครั้ง (โดยเชื่อว่าราคาน้ำมันจะยืนสูงแต่ราคาปิโตรเคมีจะปรับลดลง)
จึงแนะให้ทยอยขายทำกำไรทั้ง TOP และ PTTAR เมื่อราคาหุ้นถึงราคาเป้าหมายในระดับราคาที่เหมาะสมของเราที่ 40.75 บาทและ 21 บาท (ปรับราคาที่เหมาะสมใหม่อิง PER 9 เท่า) ตามลำดับ หรือขายทำกำไรเมื่องบไตรมาส 2/52 ประกาศในช่วงกลางเดือนสิงหาคม แล้วเปลี่ยนมาซื้อเก็งกำไร BCP ซึ่งมีจุดเด่นในการลงทุนในปีนี้อยู่ที่การทำประกันความเสี่ยงค่าการกลั่นไว้ที่ประมาณ 8 เหรียญ/บาร์เรล (ค่าการกลั่นในตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 เหรียญ/บาร์เรล), การเปิดโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน (PQI), อัตราเงินปันผลตอบแทนสูงถึง 8.6% และเป็นหุ้นที่ถูกที่สุดในกลุ่มโรงกลั่นซื้อขายที่ PER ต่ำเพียง 4.1 เท่าและมี upside ถึง 45% จากราคาทีเหมาะสมของเราที่ 20.20 บาท