นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ(BMCL)คาดว่า ปีนี้บริษัทจะมีผลขาดทุนลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุน 1.46 พันล้านบาท เนื่องจากรายจ่ายในการบริหารจัดการลดลงเหลือ 2-3% ของค่าใช่จ่ายรวม จากปีก่อนมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 5% หรือปรับลดลงเหลือประมาณ 1,300 ล้านบาท จากปีก่อนมีจำนวน 2 พันล้านบาท
และ คาดว่ารายได้เพิ่มขึ้น 10% จากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มเป็น 2 แสนคน/วัน จาก 1.7-1.8 คนเที่ยว/วัน และในปีหน้าคาดจะเพิ่มเป็น 2.1 แสนคน/วัน เนื่องจากได้รับผลจากการเปิดให้บริการโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง(แอร์พอร์ตลิงค์) และรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าบริษัทจะเริ่มมีกำไร เมื่อมีการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ โดยเบื้องต้นจากนี้จะมีกำไรภายใน 3 ปีนี้ ซึ่งมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มเป็น 3 แสนคน/วัน
"ตอนนี้ ถือว่าเรามีผลขาดทุนทยอยลดลงตลอด เรารอแค่สายสีม่วงเปิด เราก็น่าจะมีกำไร จริงๆแล้วเราน่าจะมีกำไรได้นานแล้ว แต่สายสีม่วงได้ล่าช้าไป ทำให้บริษัทมีกำไรช้ากว่าแผน ส่วนเวลาถึงจุดคุ้มทุนถ้าเรามีผุ้โดยสารมี 3 แสนคน/วัน แต่ตอนนี้มีแค่ 2 แสนคนจึงยากหน่อย"นายสมบัติ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าในส่วนเส้นทางเชื่อมต่อสถานีบางซื่อไปสถานีเตาปูน จำนวน 1 สถานีเพื่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงนั้น บริษัทได้หารือกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินเงินลงทุน ทั้งในส่วนของการวางระบบไฟฟ้า การวางระบบเปิดขายตั๋ว เป็นต้น เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1 พันล้านบาท
และบริษัทจะเตรียมเงินลงทนเพิ่มอีก 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อเข้าประมูลเดินรถในเส้นทางเตาปูน-บางใหญ่ ซึ่งจะต้องซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มเติม
นายสมบัติ กล่าวว่า การใช้ระบบตั๋วร่วมกับบมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(BTS)ขณะนี้ทั้งสองบริษัทได้ให้ผู้ทำซอฟท์แวร์ ทั้งสองแห่งร่วมมือกั้นที่ทำให้ตั๋วเป็นมาตรฐานเดียวกันและเชื่อมต่อกันได้ ซึ่งคาดว่าในแง่เทคนิคจะแล้วเสร็จ 2 ปี โดยเงินลงทุนระบบตั๋วร่วม รวม 600-700 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนการลงทุนจะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสารแต่ละแห่ง โดย BMCL ได้มี้ตรียมเงินทุนในรูปเงินกู้ไว้แล้ว