โบรกฯ เชียร์"ซื้อ/เก็บ"DTAC มองได้ประโยชน์มากสุดหากได้ใบอนุญาต 3G

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 9, 2009 16:46 —SMS: IQ ข่าวหุ้น

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ แนะนำลงทุนหุ้น บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC)มองว่าจะเป็นผู้ได้ประโยชน์มากที่สุด หากได้ใบอนุญาต 3G คลื่น 2.1 GHz ทำให้สามารถประหยัดต้นทุนการดำเนินธุรกิจและมีแนวโน้มทำกำไรได้มากขึ้น ซึ่งทาง กทช.ก็ได้มีการประกาศความคืบหน้าเป็นระยะและคาดว่าอย่างช้า ม.ค.ปีหน้าจะให้ใบอนุญาตได้ แต่โบรกฯ บางรายยังกังวลความเสี่ยงว่าอาจเกิดความล่าช้า และหากล่วงเลยไปถึงไตรมาส 4/54 ซึ่ง DTAC ต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้เพิ่มอีก 5% เป็น 30% จาก 25% ในปัจจุบัน ก็อาจกลายเป็นภาระหนัก

          โบรกเกอร์           คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.ฟินันเซียไซรัส       ซื้อ                  44.00
          บล.ดีบีเอสฯ           ซื้อ                  40.50
          สถาบันนครหลวงไทย     ซื้อ                  39.00
          บล.ธนชาต            ซื้อ                  38.00
          บล.กิมเอ็ง           ทยอยสะสม             37.00

น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ข่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ประเด็นการลงทุนใน DTAC ไม่ได้อยู่ที่ผลประกอบการในปีนี้ เพราะทั้งอุตสาหกรรมก็จะได้รับผลกระทบจากการหดตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทำให้คาดว่ากำไรของทั้งกลุ่มจะลดลง 4.0% แต่ประเด็นหลักอยู่ที่การประมูลใบอนุญาต 3G ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้ และเริ่มให้บริการได้ประมาณกลางปีหน้า DTAC จะได้ประโยชน์ในด้านการประหยัดต้นทุนมากกว่า ADVANC เพราะปัจจุบัน DTAC จ่ายส่วนแบ่งรายได้สูงกว่า ADVANC

"DTAC จะได้รับประโยชน์จากการได้ใบอนุญาต 3G ได้ประหยัดต้นทุนได้มากกว่า เพราะปัจจุบันจ่ายค่าสัมปทานสูงกว่า ADVANC โดยจ่ายอยู่ที่ 25% ของรายได้ แต่ ADVANC จ่ายอยู่ 22% เขาได้ประโยชน์ Cost Saving มากกว่า แต่ ADVANC จะได้เปรียบกว่าในการแข่งขัน 3G จากจำนวนฐานลูกค้ามากกว่า"น.ส.จิตรา กล่าว

DTAC ได้รับสัมปทานภายใต้บมจ.กสท.โทรคมนาคม ในสมัยที่เป็นการสื่อสารแห่งประเทสไทย(กสท.)ในการเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในระบบ Analog AMPS 800 เมกะเฮิรตซ์ และระบบ Digital GSM 1800 เมกะเฮิรตซ์ เป็นระยะเวลา 27 ปี สิ้นสุดสัญญาในวันที่ 15 ก.ย.61 สัญญาดังกล่าวมีลักษณะ BTO — Build-Transfer-Operate

ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 คาดว่าจะอ่อนตัวเช่นเดียวกับภาพรวมธุรกิจโทรมือถือ

"ผลประกอบการปีนี้ไม่ได้ต้วชี้วัดการลงทุนสำหรับปีนี้แล้ว ต้องมาคุยเรื่อง 3G ปีหน้า เพราะว่ายังไงผลประกอบการปีนี้ลดลงเยอะทั้งอุตสาหกรรม เพราะได้รับผลกระทบจากการบริโภคที่ลดลงซึ่งเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจ...DTAC น่าลงทุน เพราะมันถูก ในแง่ P/E แค่ 10 เท่า และยังเก็งข่าวเรื่อง 3G และยังเป็นหุ้น defensive เพราะก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์มองว่าปรับฐาน" น.ส.จิตรา กล่าว

ด้าน น.ส.ศลยา ณ สงขลา ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มองว่า ทั้งกลุ่มธุรกิจมือถือมีการคาดหวังเรื่องการได้รับใบอนุญาต 3G ซึ่งมีการทยอยประกาศความคืบหน้าเป็นระยะๆ โดย กทช.บางรายระบุปลายปีนี้ บางรายระบุเป็น ม.ค.ปีหน้า จึงเป็นเรื่องหลักที่มาหนุนราคาหุ้นของกลุ่มนี้

แต่ในแง่ผลประกอบการไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ยังไม่ดี เพราะด้วยเศรษฐกิจชะลอตัวและ เป็นช่วง Low Season ด้วย

หากมองในแง่การได้รับใบอนุญาต 3G นั้น DTAC จะได้รับประโยชน์จากการลดต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing)ได้มากกว่า เพราะปัจจุบัน DTAC จ่ายแพงกว่า ADVANC ดังนั้น หากได้ใบอนุญาตก็จะลดต้นทุนได้มากกว่า แต่ยังไม่แน่ใจว่า กทช.จะสามารถออกใบอนุญาต 3G ได้ตามที่ประกาศไว้ ถ้าล่าช้า ADVANC ก็จะกลับมาได้เปรียบ

บล.ธนชาต ระบุว่า DTAC ได้รับประโยชน์จากการออกใบอนุญาต 3G มากที่สุด และเตรียมพร้อมสำหรับเงินลงทุนในระบบ 3G แล้ว นอกจากวงเงินสินเชื่อที่มีอยู่ 6 พันล้านบาทแล้ว DTAC ยังจะทำการออกหุ้นกู้สกุลบาทอีกด้วย ใบอนุญาต 3G จะช่วยขจัดผลเสียจากการที่ DTAC มีโครงสร้างต้นทุนที่เสียเปรียบลดลงได้

ขณะเดียวกัน การที่บริษัทฯ มีสัดส่วนลูกค้าในหัวเมืองในระดับสูง (50% ของลูกค้าทั้งหมด) น่าจะทำให้บริษัทฯ สามารถย้ายลูกค้าระบบ 2G ไปใช้บริการระบบ 3G ได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่อัตราค่าสัมปทานจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 54

นอกจากนี้ ต้นทุนค่าเชื่อมโยงโครงข่ายมีแนวโน้มลดลงจากโปรโมชั่นครึ่งราคาของ DTAC (0.75 บาท/นาที สำหรับการโทรในทุกเครือข่าย)เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ต้นทุนค่าเชื่อมโยงโครงข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/52 ขณะที่ DTAC ไม่มีโปรโมชั่นนี้อีกต่อไป และได้พยายามชักจูงผู้ใช้บริการให้เปลี่ยนมาใช้โปรโมชั่นอื่นแทน ซึ่งความพยายามในการชักจูง รวมถึงการหมดอายุของโปรโมชั่นดังกล่าว น่าจะทำให้ค่าใช้จ่าย IC ของบริษัทฯ ลดลงในช่วงไตรมาสถัดไป

รวมทั้งการที่ DTAC ปรับลดค่าใช้จ่ายทางการตลาดลง 15% จากปีก่อน และประโยชน์จากการเจรจาต่อรองกับผู้ขายเพื่อให้ได้เทอมที่ดีขึ้น และการปรับลด outsourcing jobs ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปีนี้ เป็นต้นไป น่าจะทำให้ต้นทุนของ DTAC แตะระดับสูงสุดไปแล้วในช่วงครึ่งแรกปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ