โบรกเชียร์"ซื้อ"PTTEP มองกำไร Q2/52 ฟื้น-ปีหน้าโตกระโดดจาก 3 แหล่งใหญ่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 15, 2009 14:38 —SMS: IQ ข่าวหุ้น

โบรกเกอร์หนุน "ซื้อ/เก็งกำไร"หุ้น บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)มองผลกำไรไตรมาส 2/52 เริ่มฟื้นตัวจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับสูงขึ้น แต่มีความเสี่ยงที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวในไตรมาส 3/52 อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 70 เหรียญ/บาร์เรลในปีหน้า ประกอบกับ แหล่งผลิต 3 แหล่งใหญ่จะผลิตได้เต็มกำลัง ดังนั้น ปี 53 จะเป็นปีที่มีปริมาณการขายมากเป็นประวัติการณ์ เหมาะลงทุนในระยะกลางถึงยาว แต่ช่วงระยะสั้นชะลอก่อน รอดูภาพรวมตลาดหุ้น

เช้านี้ ราคาหุ้น PTTEP เคลื่อนไหวที่ 127 บาท บวก 1.00 บาท (+0.79%) ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นโดยรวม

          โบรกเกอร์           คำแนะนำ           ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.กสิกรไทย         ซื้อ                 194
          บล.บัวหลวง          ซื้อ                 165
          บล.กรุงศรีอยุธยา      ซื้อ                 161
          บล.ไอร่า            เทรดดิ้ง             158
          บล.กิมเอ็ง           เก็งกำไร            148
          บล.เคจีไอ           ซื้อ                 147

น.ส.ธนพร วิศรุตพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย มองว่า หุ้น PTTEP น่าลงทุนในระยะกลางถึงระยะกลาง โดยราคาพื้นฐานที่ให้ไว้ถึง 194 บาทเป็นราคาเป้าหมายในกลางปี 53 โดยประเมินว่าราคาน้ำมันดิบดูไบในช่วงนั้นจะปรับขึ้นไปถึง 75 เหรียญ/บาร์เรล

ประกอบกับ ในปีหน้าแหล่งผลิตขนาดใหญ่ 3 แหล่งผลิตเต็มกำลัง ได้แก่ แหล่งมอนทาราที่ออสเตรเลีย, แหล่งเจดีเอ โดยทั้งสองแหล่งจะเริ่มผลิตในไตรมาส 4/52 และแหล่งอาทิตย์เหนือ ซึ่งเริ่มผลิตเต็มที่ในเดือนก.ค.นี้ ส่งผลให้ยอดปริมาณขายในปีหน้าน่าจะสูงเป็นประวัติการณ์

ในช่วงระยะสั้นราคาน้ำมันยังอ่อนตัวอยู่ในช่วงฤดูกาลที่ใช้น้ำมันน้อย ก็ส่งผลไม่ดีต่อหุ้น PTTEP แต่คาดว่าในไตรมาส 4/52 ราคาน้ำมันจะดีขึ้นจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล

"ต้องยอมรับว่า เราชอบ ปตท.สผ.แต่ในระยะสั้นหุ้น ปตท.น่าจะเหมาะลงทุนมากกว่า น่าจะ save กว่า แต่ถ้าราคาลงไปต่ำก็น่าเข้าไปซื้อ ปตท.สผ."น.ส.ธนพร กล่าว

ขณะที่ น.ส.ปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง มองว่า หุ้น PTTEP ยังเป็นหุ้นที่น่าลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยมองว่าภาพรวมน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นได้

แต่จังหวะนี้ไม่ใช่ช่วงเข้าซื้อ เพราะเห็นว่าตลาดภาพรวมรีบาวน์ช่วงสั้น ๆ มากกว่า ระยะสั้นจึงยังไม่ควรเข้าไป ควรรอดูทิศทางตลาดรวม ดังนั้น ช่วงที่ตลาดรีบาวน์จะเป็นจังหวะขายทำกำไรมากกว่า ส่วนนักลงทุนที่ยังไม่มีหุ้น ควรรอให้ราคาอ่อนตัวก่อน มองว่าตลาดยังมีการปรับฐานอยู่ยังไม่จบ

"เรามองว่า(ขณะนี้)ไม่น่าจะใช่จังหวะ(เข้าซื้อ) เพราะดูลักษณะตลาดการรีบาวน์แค่ช่วงสั้นๆมากกว่า พราะฉะนั้นการซื้อข่วงนี้จึงไม่เหมาะ เราคงดูตจลาดก่อน เรามองว่าตลาดยังปรับฐานไม่เรียบร้อย ถ้ารีบาวน์ก้ให้ระมัดระวังมากกว่า ยังไงตลาดรวมเรามองที่แนวรับที่ 550 จุด คงไม่เปลี่ยนมุมมอง"น.ส ปองรัตน์ กล่าว

ด้านบทวิเคราะห์ของบล.กรุงศรีอยุธยา คาด กำไรสุทธิของ PTTEP ในไตรมาส 2/52 จะฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 24% เท่ากับ 7,143 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นตลอดทั้งไตรมาส และได้ค่าตัดจำหน่ายหลุมแห้งคาดว่าจะลดลงจาก 1,576 ล้านบาท เหลือเพียง 868 ล้านบาท จากแหล่งในประเทศอียิปต์และโอมาน

ส่วนระยะยาว คาดว่าผลกำไรสุทธิ ปี 53 จะเติบโตกว่า 66% จากปีก่อน เป็น 38,089 ล้านบาท ตามแหล่งผลิตปิโตรเลียมที่ทยอยเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 53 ได้แก่ 1)โครงการอาทิตย์เหนือ (ถือหุ้น 100%) ปริมาณขายก๊าซธรรมชาติ 100 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และคอนเดนเสท 1,500 บาร์เรล/วัน คาดว่าจะผลิตเต็มที่ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2)โครงการ MTJDA (ถือหุ้น 50%) กำลังการผลิตก๊าซ 270 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เริ่มผลิต ในไตรมาส 4/52

และ 3) โครงการ Montara (ถือหุ้น 100%) กำลังการผลิตน้ำมันดิบและคอนเดนเสท 35,000 บาร์เรลต่อวัน เริ่มผลิต ในไตรมาส 4/52 จะส่งเสริมให้ผลประกอบการปี 53 เติบโตก้าวกระโดด

รวมถึงคาดว่าราคาน้ำมันดิบในระยะยาวมีความเสี่ยงขาลงจำกัดจากสมมติฐานเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวในช่วงปลายปี 52 และความเห็นที่เป็นบวกของ OPEC ต่อระดับราคาน้ำมันดิบในปัจจุบัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ