หุ้น TMB ราคาไหลลง 2.35% มาอยู่ที่ 0.83 บาท ลดลง 0.02 บาท มูลค่าซื้อขาย 90.30 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.51 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.85 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.85 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.83 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) แนะ"ขาย"หุ้น ธนาคารทหารไทย(TMB)ที่ราคาพื้นฐาน 0.8 บาท แม้ว่าจะมีกำไรพิเศษกว่า 3.0 พันล้านบาทในไตรมาส 2/52 กำไรสุทธิของธนาคารยังอยู่ในระดับต่ำ จากค่าใช้จ่ายสำรองที่เพิ่มอย่างรุนแรง แม้ว่าจะมีสัญญาณที่เป็นบวกว่าส่วนต่างดอกเบี้ยเริ่มทรงตัว สินเชื่อที่ขยายตัวลดลงจะกดดันรายรับดอกเบี้ยสุทธิอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นจากการปรับปรุงระบบการทำงานภายในสาขาอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้การปล่อยสินเชื่อล่าช้าในปีนี้
โดยคาดว่า TMB จะรายงานสินเชื่อหดตัว 9.7% จากงบที่ต่ำคาดและตลาดอาจต้องมีการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิลงอีก แนวโน้มความสามารถในการทำกำไรจะยังอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับธนาคารอื่นในกลุ่ม ซึ่งมีแนวโน้มค่า ROAE ที่เพียง 8-9% ในอีก 3 ปีข้างหน้า
TMB รายงานกำไรไตรมาส 2/52 ที่ 393 ล้านบาท ลดลง 9.9% QoQ และ 66.1% YoY ตัวเลขดังกล่าวลดลงทั้ง QoQ และ YoY จากค่าใช้จ่ายสำรองที่เพิ่มอย่างมากเป็นหลัก (เพิ่ม 351% YoY และเพิ่มเทียบกับการบันทึกย้อนสำรอง 1.1 พันล้านบาทในไตรมาสที่แล้ว) และสินเชื่อที่หดตัวอย่างมาก (ลดลง7.9% QoQ และ 16.1% YoY) ผลประกอบการไตรมาส 2/52 ออกมาแย่ ต่ำกว่าประมาณการของตลาด 33% และต่ำกว่าประมาณการ 36% เนื่องจากค่าใช้จ่ายสำรองสูงเกินคาดที่ 3.7 พันล้านบาทเทียบกับประมาณการที่ 2.8 พันล้านบาท ซึ่งทำให้กำไรลดลงแม้ว่าจะมีการกำไรพิเศษจากการทำคำเสนอซื้อ Hybrid Tier 1 จำนวน 2.3 พันล้านบาทและกำไรจากการลงทุนที่ 872 ล้านบาท
บล.ทิสโก้ แนะ"ขาย"หุ้น TMB เนื่องจากผลตอบแทนที่ติดลบเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 0.46 บาท (PBV 0.44 เท่าปี 2552F)โดยแนวโน้มความสามารถในการแข่งขันของธนาคารยังคงอยู่ในระดับต่ำ สมมติฐานอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งในปีหน้าหลัก ๆ เนื่องจากฐานที่ต่ำในปีนี้ แต่ยังคงต้องจับตาดูธนาคารสามารถรักษาการเติบโตในระดับสูงได้หรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก