โบรกฯ เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.เอ็ม.ซี.เอส.สตีล(MCS)เพื่อรอรับปันผลระหว่างกาล จากที่คาดว่าทั้งปีจะจ่ายราว 0.30-0.35 บ./หุ้น อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 10-11% โบรกบางแห่งเตรียมปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้หลังผลงานไตรมาส 1/52 และไตรมาส 2/52 ออกมาดีมาก ตัวเลขใกล้กับทีประมาณไว้ทั้งปี ขณะที่พื้นฐานเป็นบริษัทไม่มีหนี้ มีรายได้สม่ำเสมอ Backlog ระยะยาวหนุน และได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า
โบรกฯ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย
บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ซื้อ 3.50 (กำลังปรับขึ้น)
บล.พัฒนสิน ซื้อ 3.94 (consensus 3.66)
บล.เอเซีย พลัส ซื้อ 4.36
สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ซื้อ 4.00
นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)คาดว่า ปีนี้ MCS จะจ่ายปันผลอย่างน้อย 0.30 บาท/หุ้น โดยกำไรน่าจะมากกว่าที่คาดไว้ 300 ล้านบาทต้นๆ แต่จริงๆ น่าจะใกล้กับปีที่แล้วเพราะงานในมือที่จะส่งมอบถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีใกล้ๆ กับปีที่แล้ว ดังนั้น กำไรก็น่าจะออกมาใกล้เคียงกัน โดยปีนี้มีงานที่ต้องส่งมอบประมาณ 4.5-4.7 หมื่นตัน
ขณะที่ช่วงไตรมาส 1-2/52 ราคาเหล็กค่อนข้างดี ดังนั้น กำไรครึ่งปีแรกก็น่าจะออกมาดีมากๆ หรือไตรมาสละประมาณกว่า 100 ล้านบาท ทำให้ใกล้ที่เคยประมาณทั้งปีกำไร 300 ล้านบาท เรากำลังจะปรับประมาณการเพิ่มขึ้นอีก และเดิมที่เคยให้ราคาเป้าหมายที่ 3.50 บาท ยังซื้อได้
"แนวโน้มคิดว่ากำไรน่าจะรักษาระดับได้ แต่ถ้าจะให้โตเยอะๆ คงจะไม่โต และเป็นหุ้นที่ซื้อขายที่ PE ต่ำ 4-5 เท่า (แนะ)ซื้อรับปันผล เพราะสภาพคล่องต่ำแต่ไม่มาก ถ้าจังหวะดีก็อาจจะเก็งกำไรได้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับราคาเหล็กขึ้นลง"นายสุรชัย กล่าว
ด้านนายประสิทธิ์ รัตนกิจกมล นักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า จากการทำพรีวิวผลประกอบการไตรมาส 2/52 ออกมาค่อนข้างดี และจาก backlog ที่เป็นงานระยะยาว มีการส่งมอบเป็นไปตามแผน ประกอบกับ ราคาขายก็ยังเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง แม้ว่าราคาเหล็กในตลาดจะปรับลงไปบ้าง แต่เป็นราคาขายของบริษัทเป็นราคาที่ทำสัญญาไว้
ระยะยาวก็ได้รับอานิสงส์จากราคาที่ทำสัญญาไว้ในปีที่แล้ว และได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เพราะรายได้ทั้งหมดเป็นเงินเยน อัตรากำไรขั้นต้นก็ดีขึ้น และมีแผนลดค่าใช้จ่ายมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องค่าขนส่งทางเรือมีการเจรจากับบริษัทเรือขอลดค่าขนส่งลงมา ทำให้ลดค่าใช่จ่ายลงได้ค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ ประมาณการไตรมาส 2/52 น่าจะกำไรประมาณ 113 ล้านบาท โตจากไตรมาส 2/51 ประมาณ 20-30% ถือว่าโตค่อนข้างเยอะ แต่กำไรจะไม่มากกว่าไตรมาส 1/52 ซึ่วเป็นช่วงที่มีการส่งมอบเยอะมาก โดยรวมก็ถือว่าไตรมาส 2 ออกมาดี จึงปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้นมาด้วย และมีการปรับ Fair Value ขึ้นมาที่ 4.36 บาท upside ค่อนข้างสูง
และคาดว่าหลังประกาศงบการเงินไตรมาส 2/52 ก็คงจะมีการประกาศปันผลระหว่างกาลด้วย เพราะปกติจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง ซึ่งคาดการณ์เงินปันผลทั้งปีนี้ไว้ 0.33 บาท/หุ้น dividend yield อยู่ในระดับที่น่าสนใจ ราคาหุ้นในปัจจุบันก็ยังซื้อลงทุนระยะยาวได้ ถึงแม้สภาพคล่องน้อยไปบ้าง แต่ถ้าถือลงทุนระยะยาวเพื่อรับปันผลไม่น่าผิดหวัง
ส่วนเรื่องวัตถุดิบไม่น่ามีปัญหาเพราะทำสัญญาซื้อล็อคไว้เป็นครั้งๆ ตามออร์เดอร์ ยอดขายก็จะสอดคล้องกันพอดี ราคาก็จะขึ้นลงสอดคล้องกันในแต่ละรอบ ซึ่งจะไม่มีปัญหาว่าสต็อกแพง สต็อกถูก ทำให้มาร์จินค่อนข้างนิ่ง
นายถนอมศักดิ์ สหรัตนชัย ผู้บังคับบัญชา สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน ระบุว่า ประเด็นหลักของ MCS คือปันผล เพราะเป็นหุ้นที่มีปันผลดี คาดว่าปีนี้จะจ่าย 0.35 บาท/หุ้น dividend yield ประมาณ 10-11%
MCS เป็นหุ้นที่มี Return on Equity(ROE)สูง คาดไว้ประมาณ 24% และไม่มีหนี้ ในเรื่องของรายได้คิดว่ายังคงดีต่อเนื่อง ปีนี้จะมีการส่งมอบเหล็กประมาณ 4.6-4.7 หมื่นตัน สูงกว่าเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 4.5 หมื่นตัน และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม จากต้นปีที่คาดไว้ที่ 4 หมื่นตัน backlog ขณะนี้มีสูงกว่า 1 แสนตัน ถือว่าค่อนข้างปลอดภัยสำหรับตัวออร์เดอร์ไปถึงปี 2011
ส่วนไตรมาส 2/52 คาดว่ากำไรประมาณ 117 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% yoy แต่ qoq ลดลง เพราะปกติไตรมาส 1 ดีที่สุดจากราคาเหล็กที่ดีขึ้น 50% yoy ยังแนะซื้อเหมือนเดิม
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สถาบันวิจัยนครหลวงไทย มองว่า MCS คาดว่าปีนี้จะจ่ายปันผลในเกณฑ์ที่ดีมากน่าจะได้ประมาณ 0.30 บาท/หุ้น ให้ fair price ที่ 4.00 บาท ยังซื้อได้แต่ต้องซื้อลงทุน เพราะเป็นหุ้นที่ค่อนข้างจะไม่ค่อยเคลื่อนไหวเท่าไรในช่วงธรรมดา แต่ถ้าช่วงปันผลก็จะมีสภาพคล่องที่ดี
ในเชิงพื้นฐานก็ดี ไตรมาส 2/52 คาดว่าผลประกอบการจะออกมาดี แต่กำไรคงลดลงจากไตรมาสก่อน แต่ทั้งปีก็จะปันผลได้ งานในมือในช่วงที่เหลือของปีนี้จนถึงไตรมาส 1/54 มีอยู่ประมาณ 1 แสนตัน ถือว่าเลี้ยงตัวเองไปได้ถึง 2 ปี
ส่วนเรื่องราคาเหล็ก ผู้ค้าส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลตรงนั้นมากอาจจะมีเรื่องของ Inventory บ้างแต่ไม่เยอะมาก เพราะซื้อมาขายไป หลักๆ แล้ว MCS ได้ผลดีในเรื่องเหล็กเกรดดีและเป็นเหล็กที่มีความต้องการ ราคาไม่ค่อยได้ผันผวนมากนัก การก่อสร้างในญี่ปุ่นเป็นตลาดหลัก