นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT หรือ ทอท.)เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในช่วง 9 เดือนแรกงวดปี 52(ต.ค.51-มิ.ย.22)มียอดผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 26.98 ล้านคน แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 6.18 ล้านคน ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 20.79 ล้านคน
หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 51 พบว่าปริมาณผู้โดยสารลดลง 15.24% โดยในปี 51 มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 31.83 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้โดยสารในประเทศ 5.43 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.99% และผู้โดยสารระหว่างประเทศ 26.40 ล้านคน ลดลง 21.24%
ส่วนปริมาณเที่ยวบินมีจำนวนทั้งสิ้น 178,354 เที่ยว แบ่งเป็นเที่ยวบินในประเทศ 46,790 เที่ยว เที่ยวบินระหว่างประเทศ 131,554 เที่ยว ซึ่งหากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 51 พบว่าปริมาณเที่ยวบินลดลง 8.9% โดยในปี 51 มีเที่ยวบินทั้งสิ้น195,777 เที่ยว แบ่งเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 45,357 เที่ยว เพิ่มขึ้น 3.16% เที่ยวบินระหว่างประเทศ 150,420 เที่ยว ลดลง 12.54%
สาเหตุที่ปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบินระหว่างประเทศลดลง มาจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลก ผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ส่วนปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบินภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น เพราะสายการบินไทย (THAI)ย้ายการให้บริการเที่ยวบินในประเทศมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายเสรีรัตน์ ยังกล่าวถึงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิบริเวณแปลงที่ 37 ว่า ได้สั่งทบทวนแผนการลงทุนดังกล่าว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และให้ชะลอแผนการลงทุนจากเดิมที่จะเริ่มลงทุนในปี 2553 รวมทั้งให้จัดลำดับความสำคัญของโครงการที่จะลงทุนใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงการลงทุนโรงแรมระดับ 3 ดาว ศูนย์สุขภาพ และสำนักงานสายการบิน
"ทอท.ต้องทบทวนแผนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพราะสถานการณ์ปัจจุบันทำให้เงินลงทุนลดลง ขณะที่ผลตอบแทนรายได้ก็จะน้อยลงด้วยเช่นกัน และหวังว่าแนวโน้มปริมาณผู้โดยสารช่วงสิ้นปี ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น จะมีผู้โดยสารเดินทางมากขึ้น" นายเสรีรัตน์ กล่าว
ส่วนการบริหารจัดการพื้นที่ท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อรองรับอุตสาหกรรมการบินนั้น ทอท.มีความพร้อมที่จะรองรับอุตสาหกรรมการบินที่หลากหลาย และขณะนี้อยู่ระหว่างการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมในการลงทุนและใช้ประโยชน์จากท่าอากาศยานดอนเมือง คาดว่าจะมีรายได้ในปี 2554 โดยตั้งเป้ารายได้เพิ่มอย่างน้อยเดือนละ 55 ล้านบาท เพื่อที่จะให้รายได้ครอบคลุมค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันการบริหารท่าอากาศยานดอนเมืองมีค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 100 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้อยู่ที่เดือนละ 45 ล้านบาท
ด้านพล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย(THAI) เปิดเผยว่า การย้ายเที่ยวบินในประเทศจากท่าอากาศยานดอนเมืองมาให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแห่งเดียว ส่งผลให้การบินไทยมีส่วนแบ่งการตลาดของเที่ยวบินภายในประเทศเพิ่มขึ้น 10% และมีจุดเชื่อมต่อที่สุวรรณภูมิเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ 106 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังทำให้สายการบินไทยมีจุดเชื่อมต่อเพิ่มขึ้นเป็น 1,525 จุด จากเดิมที่มีจุดเชื่อมต่อเพียง 1,211 จุด