ESTAR พุ่ง 8.82%"เก็งกำไร"ขายคอนโดเสร็จได้เงินสด-รอลดทุนก่อนปันผลพิเศษ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 3, 2009 11:17 —SMS: IQ ข่าวหุ้น

หุ้น ESTAR ราคาพุ่งขึ้น 8.82% มาอยู่ที่ 0.37 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 1.48 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.11 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.35 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.38 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.35 บาท

Fund Survey บล.ฟาร์อีสท์ แนะ"เก็งกำไร"หุ้น บมจ.อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท(ESTAR)โดยให้เป้าหมายที่ 0.76 บาท ประเมินว่า โครงการนราธิวาสและโครงการพระราม 3 ที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อสถานะการลดทุนของบริษัทเพื่อคืนเงินสดให้กับผู้ถือหุ้น มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น หลังจากที่โครงการพระราม 3 ได้ข้อสรุปการปิดโครงการสำหรับ 34 ยูนิตที่เหลือ โดย 28 ยูนิต เป็นการขายราคาพิเศษให้กับผู้ถือหุ้นใหญ่ คาดการณ์เงินสดรับไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการรอโอน

โครงการนราธิวาส แม้ข้อสรุปการปิดโครงการยังไม่ชัดเจนเท่ากับโครงการพระราม 3 แต่มีการขายห้องชุดออกไปอีกประมาณ 30% ของที่เหลือ (66 ยูนิต) ประมาณการเงินสดรับ 150 ล้านบาท นอกจากนี้เมื่อโครงการพระราม 3 มีการโอนเสร็จสิ้น คาดหมายสำหรับความชัดเจนมากของโครงการนราธิวาสที่เหลืออยู่ประมาณ 40 ยูนิต สำหรับการขายให้กับผู้ถือหุ้นใหญ่

กรณีเลวร้ายสุด ถ้าไม่คำนึงถึงโครงการนราธิวาสที่จะมีการเจรจากันต่อไปกับผู้ถือหุ้นใหญ่ จะทำให้สิ้นไตรมาส 3 นี้ ESTAR จะมีเงินสดประมาณ 800 ล้านบาท(0.19 บาท /หุ้น) ซึ่งคิดเป็น 19% ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของกิจการ และกรณีดีที่สุดถ้ามีการปิดโครงการนราธิวาสขายให้กับผู้ถือหุ้นใหญ่ จะทำให้ ESTAR มีเงินสดสูงถึง 1,100 ล้านบาท (0.25 บาท/หุ้น) คิดเป็น 26% ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของกิจการ ซึ่งบริษัทไม่จำเป็นต้องสำรองเงินสดไว้เพราะยังไม่มีโครงการที่ชัดเจนในช่วงปีนี้และปีหน้า

เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันที่มีเงินสดมาก LPN, AP, และ SIRI ซึ่งบริษัทเหล่านี้ยังต้องการเงินสดสำรองเพื่อพัฒนาโครงการ ทำให้คาดการณ์ว่า ESTAR จะต้องมีการปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัท โดยลดพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสม และลดจำนวนหุ้นเพื่อคืนเงินสดให้กับผู้ถือหุ้น เมื่อคำนวณในกรณีอนุรักษ์นิยมให้ ESTAR จ่ายคืนเงินสดให้กับผู้ถือหุ้น 0.10 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนถึง 31.25% และกรณีดีที่สุด 0.20 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 62.5%

ESTAR ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมีที่ดินส่วนใหญ่อยู่ที่จ.ระยอง และมีโครงการที่รู้จักกันดีในกรุงเทพ ได้แก่ โครงการ The Star Estate โดยจุดเด่นอยู่ที่ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ปลอดหนี้สินระยะยาว (Net cash) เงินสดในมือ ณ.สิ้น 1Q09 สูงถึง 551 ลบ. (0.12 บาท / หุ้น) ขณะที่ Hidden Asset คือ ที่ดินในมือสูงถึง 1,680 ไร่ คิดเป็นมูลค่าตลาดจากการประเมินของ ลินน์ ฟิลลิปส์ (ม.ค.52) ที่ 5.08 พันลบ. ขณะที่ Market Cap อยู่เพียง 1.4 พันลบ. ดังนั้น เมื่อหักเงินสดในมือ (551 ลบ.) กับ ออฟฟิศ, สำนักงาน (690 ลบ.) พบว่าตลาดตีราคาให้ Land bank ของบริษัทแค่ซากเพียงไรละ 1 แสนบาท ต่ำกว่าความเป็นจริงถึง 96%



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ