น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลจากการที่ที่ประชุมวุฒิสภาวานนี้ได้ให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงิน 4 แสนล้านบาท พร้อมตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้น 27 คน เพื่อพิจารณาภายใน 30 วัน น่าจะส่งผลให้วันนี้หุ้นในกลุ่มธนาคารคึกคักเป็นพิเศษ โดยคาดเฉพาะหุ้น บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB) และ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น 2 แบงก์ที่ได้รับประโยชน์มากสุด
"มองว่าทุกแบงก์คงได้แบ่งตามเค้ก แต่ KTB กับ BBL น่าจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจาก Size แต่ว่าจริงๆ ก็จะกระจายไปเรื่อยๆ ตามขนาดของธนาคาร อาจจะไม่ได้ทุกแบงก์ แต่ว่าด้วยจำนวนเงินที่ถือว่าก้อนใหญ่ เจ้าใดเจ้าหนึ่งปล่อยคงเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม 4 แสนล้านบาทอาจจะไม่ได้เข้าปีนี้ทั้งหมด เพราะ 4 แสนล้านบาท เป็นการกู้มาใช้ในโครงการ Infrastructure เป็นเฟสไป"
อย่างไรก็ตาม จากเรื่องนี้น่าจะทำให้ KTB ปีนี้ เห็น Loan Growth เป็น Double Digits และปีหน้าก็น่าจะยังโตได้ต่อเนื่อง แต่เท่าที่เห็นมาการปล่อยกู้ภาครัฐมาร์จิ้นไม่สูง เพราะฉะนั้นอาจจะดึง NIM ลง แต่รายได้ กำไรจะขยายตัวได้ แต่ด้วยมาร์จิ้นที่ไม่สูงมากนัก
และถึงแม้ไม่มีปัจจัยสนับสนุนจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท KTB ก็ยังโตได้ดี เพราะยังมียอดเก่าอยู่ด้วย และงวด 6 เดือน KTB ก็มียอดสินเชื่อโตค่อนข้างดีอยู่แล้ว
"เรามองว่าไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่อาจจะในแง่ของ Sentiment ทำให้วันนี้หุ้นขยับตัวได้ แต่ก็มองว่า KTB กับ BBL น่าจะรับประโยชน์พอๆกัน แต่ KTB ในแง่ของเป็นแบงก์รัฐ อาจจะได้ Benefits มากกว่านิดหน่อย"
อนึ่ง บล.ฟิลลิป ปรับเหลือ Hold ทั้งคู่ เพราะรับรู้ข่าวมามากแล้ว เพียงแต่วันนี้คงต้องดูว่าพอข่าวนี้ออกมาอาจจะเห็นหุ้นเคลื่อนไหวไปในทางบวกทั้งกลุ่ม แต่ 2 ตัวนี้อาจจะเด่น ก็อาจจะ "Trading"