นายปิยะ จงวัฒนา ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พัฒน์กล(PATKL)กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทกำลังจะยื่นขอฟื้นฟูกิจการช่วงบ่ายวันนี้ สาเหตุสำคัญคือคดีความที่บริษัทได้ยื่นฟ้องบริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด และธนาคารทหารไทย(TMB) ทำให้บริษัทต้องบันทึกค่าเสียหายกรณีการผิดสัญญาไปแล้วในไตรมาส 1/52 จำนวน 511.90 ล้านบาท ส่งผลให้ส่วนทุนติดลบ
PATKL ฟ้องบริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 และ TMB เป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาผิดสัญญาซื้อขายตัวแทน ให้ชำระหนี้และค่าเสียหายจำนวนทุนทรัพย์ 511.90 ล้านบาท เมื่อ 29 ก.ค.52 หลังจากบริษัทเข้าไปก่อสร้างโครงการเอทานอลให้กับ TPK มูลค่า 3 พันล้านบาท โดยเพิ่งเริ่มเดินโครงการและใช้เงินไปราว 500 ล้านบาท ซึ่งศาลแพ่งกรุงเทพ นัดชี้สองสถาน 19 ต.ค.52
นายปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้ยังคาดเดาผลของคดีนี้ค่อนข้างยาก หากมีการนัดสืบพยานแล้วคงพอจะมองเห็นอะไรบ้าง แต่กว่าจะจบคาดว่าอีกหลายปี ถือว่าปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งหากคดีสิ้นสุดก็จะสามารถบันทึกค่าเสียหายกลับมาเป็นรายรับทันที แต่ยอมรับว่าเรื่องคดีฟ้องร้องกับ TPK เอทานอลเป็นการก้าวพลาดไปในการทำงานด้านเอทานอล ครั้งต่อไปบริษัทคงจะต้องใช้ความระมัดระวังรอบคอบมากขึ้น
"เรายังไม่ทิ้งการทำงานโครงการเอทานอล แต่อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการ เลือกคู่ค้าที่มีเงินมา Support Project แน่นอน"นายปิยะ กล่าว
*รายได้ปีนี้ไม่โต-ขาดทุนหนักกว่าปีก่อน
นายปิยะ กล่าวว่า ผลงานปีนี้ยอมรับว่ารายได้คงจะไม่เติบโต และน่าจะขาดทุนมากกว่าปี 51 แน่นอน เพราะเพียงแค่ไตรมาส 1/52 บริษัทก็มีผลขาดทุนแล้ว 822 ล้านบาท สูงกว่าปี 51 ทั้งปีที่ขาดทุน 552 ล้านบาท เป็นผลมาจากปัญหาเศรษฐกิจทำให้ธุรกิจชะลอตัว รายได้จาการขายลดลงอย่างมาก รวมทั้งการที่บริษัทฯ รับก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ และเป็นงานที่บริษัทฯ ยังไม่มีประสบการณ์ จึงทำให้มีความผิดพลาดในการประมาณต้นทุน รวมทั้งภาระจากเรื่องคดีความด้วย
ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก ทำให้ธุรกิจเครื่องทำความเย็น เครื่องทำน้ำแข็ง เครื่องจักรผลิตอาหาร ซึ่งเป็นตัวทำรายได้หลักให้บริษัทปรับลดลงไปอย่างมาก โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ยอมรับว่าธุรกิจของ PATKL ซบเซาต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
"โลก Shock จากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้หยุดการซื้อของ เราทำเครื่องจักรผลิตอาหารขายเป็นส่วนใหญ่ เมื่อธุรกิจโลกถูกกระทบกระเทือน กำลังผลิต การปล่อยเงินถูกกระทบ ทำให้เราไม่มีธุรกิจ เพราะลูกค้าไม่มี Support ทางด้าน Invesment Finance"นายปิยะ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเวลานี้สัญญาณการฟื้นตัวเริ่มกลับมาแล้ว แต่การที่ตัว PATKL รุงรัง เพราะฉะนั้นเราต้องเข้าฟื้นฟูกิจการไม่เช่นนั้นเราอาจถูกฟ้องล้มละลายได้
"เราจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหนี้ คดีฟ้องร้องเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Equity เราติดลบมาก ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาเรามีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบอยู่ 763.37 ล้านบาท และคาดว่าไตรมาส 2 นี้ส่วนของผู้ถือ หุ้นอาจจะติดลบมากขึ้นอีก"นายปิยะ กล่าว