โบรกเกอร์ แนะรอ"ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว"หรือ"ถือ"หุ้น บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR)คาดผลประกอบการฟื้นตัวในไตรมาส 4/52 จากความต้องการใช้หรือดีมานด์อะโรเมติกส์ที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก แม้มีซัพพลายเข้ามาใหม่ในไตรมาส 3/52 รวมทั้งค่าการกลั่นน่าจะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะตกต่ำด้วย
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.กรุงศรีอยุธยา ซื้อ 25.00 บล.กสิกรไทย ซื้อ 22.70 บล.กิมเอ็ง ซื้อเมื่ออ่อนตัว 22.00 บล.ยูไนเต็ด ซื้อเมื่ออ่อนตัว 22.00 บล.นครหลวงไทย ถือ 25.60
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)มองว่า ผลประกอบ PTTAR จะฟื้นตัวในไตรมาส 4/52 จากการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว แต่ในไตรมาส 3/52 ผลประกอบการจะไม่ดี เนื่องจากค่าการกลั่นยังไม่สูงและสเปรดมาร์จิ้นของผลิตภัณฑ์กลุ่มอะโรเมติกส์ยังต่ำ รวมไปถึงผลกำไรจากสต๊อกน้ำมันคาดว่าจะไม่สูงเหมือนไตรมาสก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก
"ในไตรมาส 4 คิดว่าดีมานด์จะกลับมา มีโอกาสที่จะราคาจะฟื้น...แนะให้ซื้อเมื่ออ่อนตัวสัก 17-18 บาท เพราะต้องดูปัจจัยแวดล้อมด้วย ดูเรื่อง Fund Flow"นายกิติชาญ กล่าว
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/52 ออกมาต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 16% โดยมีกำไรสุทธิ 4,214 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.42 บาท ธุรกิจโรงกลั่นค่าการกลั่นปกติไตรมาสนี้อยู่ที่ 3.3 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง 62% yoy (-22% qoq) ตามค่าการกลั่นในตลาดโลกที่ลดลงตามการชะลอตัวลงของความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูป
แต่บริษัทมีกำไรจากการทำประกันความเสี่ยงเข้ามาชดเชย 1.84 เหรียญ/บาร์เรล และกำไรจากสต๊อกน้ำมันอีก 5.66 เหรียญ/บาร์เรล ทำให้ค่าการกลั่นทางบัญชีในไตรมาสนี้อยู่ที่ 9.47 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง 54% yoy(-6% qoq)นอกจากนั้นบริษัทยังมีการบันทึกผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีก 1,393 ล้านบาท จากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอีกด้วย หากตัดรายการพิเศษออก บริษัทจะมีกำไรปกติอยู่ที่ 1,883 ล้านบาท หรือ 0.64 บาท/หุ้น ลดลง 72% yoy
ด้านนายชาญวุทธ เตชอมรธนกิจ นักวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า มองในมุมระยะยาวเห็นว่าในไตรมาส 4/52 ผลประกอบการ PTTAR จะฟื้นตัว จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นปลายปีนี้จะส่งเสริมให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีฟื้นตัว ท่ามกลางอุปทานใหม่ในส่วนของพาราไซลีนและเบนซีนจากประเทศจีนและประเทศแถบตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าการกลั่นจะฟื้นตัวขึ้นจากความเป็นไปได้ที่โรงกลั่นขนาดเล็กในต่างประเทศจะหยุดการผลิต เพราะไม่สามารถทนทานต่อสภาพค่าการกลั่นที่ตกต่ำในปัจจุบัน
ส่วนบทวิเคราะห์ของ บล.ยูไนเต็ด ระบุว่า กำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 52 คิดเป็น 71% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 52 ของ PTTAR แต่เราไม่มีการปรับประมาณการ โดยคาดว่ากำไรสุทธิครึ่งหลังปี 52 จะอ่อนลง เนื่องจากไม่มีกำไรจากสต็อกของโรงกลั่นและไม่มีกำไรจากการทำประกันความเสี่ยง มาร์จิ้นที่ดีของอะโรเมติกส์ถูกชดเชยด้วยค่าการกลั่นที่ลดลง
แม้ว่า Earning ในครึ่งหลังปี 52 จะอ่อนลง แต่หุ้น PTTAR ก็มีปัจจัยหนุนเรื่อง Spread ของอะโรเมติกส์ที่แข็งแกร่ง และการควบรวมกิจการของบริษัทในเครือ PTT จึงคงแนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว