นายบัญชา องค์โฆษิต ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์(KCE)เปิดเผยว่า บริษัทมีนโยบายที่จะเปิดดำเนินการผลิตที่โรงงานบางปูอีกครั้งตั้งแต่เดือน ก.ย.นี้ หลังจากปิดชั่วคราวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อให้ผลิตสินค้าได้ทันและเพียงพอกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งขณะนี้ได้รับพนักงานเพิ่มแล้ว 400 คน จะทยอยรับเพิ่มเป็น 1,000 คนภายในปีนี้ เนื่องจากขณะนี้บริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายว่าในไตรมาส 3/52 จะมียอดขาย 1,500-1,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากไตรมาส 2 และตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท
สำหรับผลดำเนินงานในไตรมาส 2/52 บริษัทมีกำไรสุทธิ 4.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งขาดทุน 101.3 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.01 บาท เพิ่มขึ้น 104.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งขาดทุนหุ้นละ 0.22 บาท รายได้รวม 1,376.5 ล้านบาท ลดลง 34% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 2,085 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากเทียบรายได้ไตรมาส 2/52 กับไตรมาส 1/52 นับว่ารายได้ไตรมาส 2/52 เพิ่มขึ้น 21%
“สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะรถยนต์ จึงส่งผลกระทบต่อเคซีอีโดยตรง เนื่องจากเคซีอีเป็นผู้ส่งออกแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์เกือบ 100% และมีกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ อย่างไรก็ตาม จากการปรับขบวนการผลิตและปรับการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถพลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไรได้ในไตรมาส 2
และยังมั่นใจว่าตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไปจะมีผลดำเนินงานดียิ่งขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ขณะเดียวกันผู้ผลิตรถยนต์หลายรายได้หันมาสั่งซื้อสินค้าจากเคซีอีมากขึ้นเนื่องจากผู้ผลิตแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรปหลายรายปิดกิจการลงในช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ" นายบัญชา กล่าว