นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 2/52 สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยมียอดขาย 1,066 ล้านบาท รายได้รวม 1,019 ล้านบาท สูงขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 51 ร้อยละ 6 เป็นรายได้จากการดำเนินงาน 1,014 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 189 ล้านบาท สูงขึ้นร้อยละ 46
โครงสร้างรายได้ทั้งหมดมาจาก 2 ส่วนธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ส่วนแรก โครงการพัฒนาที่พักอาศัย (Residential) จำนวน 806 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 79 % ของรายได้จากการดำเนินงาน และ ส่วนที่ 2 ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า (Office Building) จำนวน 208ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 21% ของรายได้จากการดำเนินงาน
สำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรก บริษัทฯมียอดขายรวม 1,694 ล้านบาท รายได้รวม 1,713 ล้านบาท เป็นรายได้จากการดำเนินงาน 1,706 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 282 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 52 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวม และ มีหนี้สินรวม เท่ากับ 9,807 ล้านบาท และ 4,116 ล้านบาทตามลำดับ มูลค่าหุ้นตามบัญชีเท่ากับ 17.73 บาทต่อหุ้น โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทฯ เปิดขายโครงการใหม่ 2 โครงการในไตรมาส 2/52 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก
แผนพัฒนาโครงการใหม่ ยังคงเน้นการพัฒนาไปที่โครงการแนวราบเป็นหลัก โดยในช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดตัว 6 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งได้สร้างสรรค์และพัฒนาแบบบ้านตามแนวคิด 5 จุดขายสำคัญให้มีความพิเศษจากซีรี่ส์ในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นต้นแบบ New Series 2009 ทั้งบ้านเดี่ยวและ ทาวน์โฮม ที่โดดเด่นด้วยการเพิ่มเติมฟังก์ชั่นและพื้นที่ใช้สอยเพื่ออรรถประโยชน์ที่มากขึ้นกว่าเดิม
ได้แก่ โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด สาทร-ปิ่นเกล้า บนพื้นที่กว่า 65 ไร่ จำนวน 217 ยูนิต ขนาด 52.5 — 155 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 220-302 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 6.99-15 ล้านบาท นับเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ซีรี่ส์ใหม่ล่าสุดของบริษัทในขณะนี้ มีแบบบ้านให้เลือกจำนวน 3 แบบ
ส่วนโครงการต้นแบบบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ได้แก่ โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด เกษตร-นวมินทร์ มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ และโครงการทาวน์โฮมใหม่ล่าสุด ได้แก่ โครงการวิสต้า ปาร์ค รัชดา-รามอินทรา ทาวน์โฮมหรู 3 ชั้น บนพื้นที่กว่า 13 ไร่ จำนวน 108 ยูนิต ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องพักผ่อน ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท
กับอีก 3 โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ ได้แก่ โครงการไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด รัชวิภา มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท โครงการเอสซี ออฟฟิศ เพลส รัชดา-รามอินทรา มูลค่าโครงการ 150 ล้านบาท และ โครงการคอนโดมิเนียม บริเวณพหลโยธิน 11 มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท
สำหรับโครงการพัฒนาต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-พระราม 5 ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อพัฒนาสินค้าให้ครอบคลุมตลาดในโซนสาทร-ปิ่นเกล้า และ ราชพฤกษ์- พระราม 5 ด้วยการเปิดเฟสใหม่เป็นคฤหาสน์หรู 2 ชั้น พร้อมเรือนรับรองและสระว่ายน้ำส่วนตัว เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ ราคาเริ่มต้นที่ 17 ล้านบาท จำนวนเพียง 20 ยูนิต
สรุปภาพรวมในปี 52 บริษัทฯ มีโครงการใหม่รวมทั้งหมด 8 โครงการ มูลค่ารวม 4,700 ล้านบาท นับรวมโครงการที่เปิดตัวไปแล้วในช่วงในไตรมาส 2/52 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวระดับหรู 3 ชั้น “โครงการแกรนด์บางกอก บูเลอวาร์ด รัชดา-รามอินทรา" จำนวนเพียง 39 ยูนิต ระดับราคา 15-20 ล้านบาท ริมถนนตัดใหม่รัชดา-รามอินทรา บนเนื้อที่กว่า 16 ไร่ มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายแล้วกว่า 50% และ โครงการออฟฟิศ เพลส ประชาชื่น ที่ได้ปิดการขายแล้ว มูลค่าโครงการ 60 ล้านบาท
นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า แนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังนี้คาดว่าสถานการณ์ยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว และ ทาวน์โฮม ยังมีแนวโน้มไปได้ดี ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ที่แม้ว่าภาพรวมของยอดขายโครงการใหม่จะชะลอตัวลงจากปี 51 ที่ผ่านมา แต่พบว่าบางโครงการยังคงสามารถสร้างยอดขายได้ โดยเฉพาะในทำเลที่ใกล้แหล่งชุมชน และการเดินทางที่สะดวก บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถทำยอดขายและรายได้ทั้งปีได้ตามเป้าหมาย และปีนี้บริษัทฯ มีงบประมาณในการซื้อที่ดินเพื่อใช้พัฒนาในปี 53-54 จำนวน 1,000 ล้านบาท โดยช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ซื้อที่ดินใหม่รวม 4 แปลง มูลค่าประมาณ 650 ล้านบาท ได้แก่ พิบูลย์สงคราม รัชวิภา และอีก 2 แปลงที่รามอินทรา ปัจจุบันมีที่ดินสะสม(Land Bank)ประมาณ 200 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งแนวทางการพัฒนาจะเน้นทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในทำเลที่ดีติดริมถนนเส้นหลัก การคมนาคมสะดวกสบาย อยู่ใกล้แหล่งชุมชน