นายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร(TK) กล่าวว่า บริษัทได้ปรับประมาณการรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 15% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 5-7% เนื่องจากการแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อมอเตอร์ไซต์เริ่มลดลง และกำลังซื้อของเกษตรกรที่เป็นลูกค้าหลักของบริษัทเริ่มปรับตัวดีขึ้น
แต่ในด้านกำไรสุทธิคาดว่าจะลดลงจากปีก่อนที่มีกำไร 326 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้บริษัทฯมีต้นทุนบริหารในส่วนของพนักงานเพิ่มมากขึ้น โดยมีพนักงานถึง 1,800 คน เนื่องจากมองว่าโอกาสของธุรกิจกำลังกลับมา จึงต้องเตรียมพร้อมด้านบุคลากรเพื่อการเติบโตในอนาคต ประกอบกับ มีการเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยภายในปีนี้จะเปิดสาขา 2-3 สาขา จากปัจจุบันที่มี 75 สาขา ซึ่งบริษัทฯจะใช้เงินทุน 2 ล้านบาท/สาขา และจะต้องมีพนักงานประจำสาขาเพิ่มอีก
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาพรวมของการเติบโตของยอดขายมอเตอร์ไซต์ในปีนี้จะอยู่ที่ 1.4 ล้านคัน ต่ำกว่าปีก่อนที่มี 1.7 ล้านคัน เนื่องจากผู้ผลิตมีการลดการผลิตลง ตามภาวะเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว แต่บริษัทฯยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดการปล่อยสินเชื่อรถมอเตอร์ไซต์ในกรุงเทพและปริมณฑล ในระดับ 25% ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ของกรุงเทพและปริมณฑลทั้งหมด
นายประพล กล่าวอีกว่า ส่วนปีนี้บริษัทฯยังคงรักษาตัวเลขหนี้ NPL ในระดับไม่เกิน 2.5% ไว้ได้ และมีการตั้งสำรองฯไว้ทั้งหมดแล้ว โดยบริษัทฯจะคิดเป็น NPL เมื่อลูกค้าขาดส่งค่างวดเกิน 6 เดือน นอกจากนี้บริษัทฯยังคงอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 30% ซึ่งก็จะพยายามรักษาระดับนี้ไว้ในปีนี้
ในส่วนของการเจรจาซื้อพอร์ตสินเชื่อมาบริหาร ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เจรจาไว้ 2-3 ดีล ขณะนี้ได้ล้มการเจรจาไปแล้ว เนื่องจากราคาที่มีการเสนอกันไว้อยู่ระดับสูง ทำให้ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับน้อยกว่าการปล่อยสินเชื่อเอง จึงได้ทำการยกเลิกไป แต่บริษัทฯก็ยังเปิดโอกาสหากมีพอร์ตสินเชื่อที่น่าสนใจมาเจรจา ก็มีความพร้อมที่จะเข้าลงทุน เนื่องจากบริษัทฯมีวงเงินสินเชื่อพร้อมเบิกจ่ายสูงถึง 2.4 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมองหาธุรกิจใหม่ โดยสนใจธุรกิจ Non-Bank เนื่องจากบริษัทฯมีข้อได้เปรียบจากการที่มีฐานลูกค้าในมือกว่า 1.5 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งน่าจะใช้ข้อมูลตรงนี้ทำธุรกิจ Non-Bank ได้
ปัจจุบันมีอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)มีอยู่ 1.36 เท่า ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่อยู่ 7-8 เท่า บริษัทฯจึงมีโอกาสลงทุนเพิ่ม เพราะหนี้สินถือว่าต่ำมาก
สำหรับ TK บริษัทฯมีพอร์ตสินเชื่อต่างจังหวัด 60% กทม. 40% แผน 5 ปีข้างหน้ามีแผนที่จะเพิ่มต่างจังหวัดเป็น 80% กรุงเทพฯ 20%
รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า แผนการออกหุ้นกู้ที่เคยขอวงเงินจากผู้ถือหุ้นไว้จำนวน 1.5 พันล้านบาท ขณะนี้ยังไม่มีแผนออกหุ้นกู้ เนื่องจากต้นทุนการออกหุ้นกู้สูงกว่าการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน