บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เตรียมทบทวนการลงทุนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในเวียดนามจากที่เคยคาดว่าอาจจะต้องชะลอออกไปราว 2 ปี เนื่องจากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาสัญญาณทางการเงินของโลกปรับตัวดีขึ้น ซึ่งหากสถานการณ์การเงินในโลกดีขึ้นก็มีโอกาสดำเนินโครงการต่อ
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCC กล่าวว่าบริษัทฯ ไม่ได้พับโครงการ แต่เนื่องจากโครงการนี้ที่มีมูลค่าลงทุนสูงถึง 3-4 พันล้านดอลลาร์ และเป็นโครงการที่ต้องใช้ project finance ทั้งโครงการ ทำให้ต้องเลื่อนออกไปก่อนในช่วงที่สถานการณ์ทางการเงินของโลกไม่ดี แต่ในช่วง2-3 เดือนที่ผ่านมาก็ดีขึ้นมากแล้วทำให้มีโอกาสสำหรับโครงการนี้เปิดมากขึ้น
"เพราะโครงการนี้ต้องใช้ project finance และตลาด(การเงิน)ยังไม่เปิด project จึงต้อง delay ออกไป ใจผมเห็นว่าสถานการณ์การเงิน 2-3 เดือนที่ผ่านมาดีขึ้นมากๆ ก็จะเป็นผลดีกับ project นี้"นายกานต์ กล่าว
นายกานต์ คาดว่า ในปีนี้ทุกธุรกิจของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน หลังจากแนวโน้มเศรษฐกิจมีสัญญาณฟื้นตัว แต่ยังต้องติดตามเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดว่าจะมีเสถียรภาพในการเติบโตหรือไม่ ขณะเดียวกันหากการเมืองไทยนิ่งจะช่วยทำให้ความเชื่อมั่นกลับมาเร็วขึ้น และสภาพเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก
ในส่วนธุรกิจปิโตรเคมีนั้น เห็นได้ชัดเจนว่ามีการฟื้นตัวดีกว่าที่บริษัทคาดไว้ รวมทั้งความกังวลเรื่อง supply ใหม่ที่เคยคาดว่าจะเข้ามาในตลาดปีนี้ 9 ล้านตัน กลับลดเหลือ 5 ล้านตัน และขณะนี้คิดว่าคงจะไม่ถึง 5 ล้านตันแล้ว เนื่องจากมีโครงการที่เลื่อนออกไป และบางโครงการมีปัญหาทางการเงินถึงขั้นปิดกิจการ
ขณะที่ธุรกิจกระดาษเริ่มมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเดือน พ.ค.-มิ.ย.52 เนื่องจากส่งออกดีขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปอย่างมากตั้งแต่ปลายปีก่อน ส่วนธุรกิจปูนซิเมนต์ครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวดีขึ้นมาก ถ้าเทียบกับครึ่งหลังของปีก่อนที่ธุรกิจตกต่ำมาก ซึ่งปีนี้เชื่อว่าธุรกิจปูนจะมีโอกาสเป็นบวก
"เศรษฐกิจโลกผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขอให้การเมืองนิ่งๆ ภาคเอกชนซึ่งแข็งแกร่งก็จะทำงานได้ดี...ทุกธุรกิจของบริษัทฯ ดีกว่าที่คาดไว้ แต่ยังต้องคอยดูว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะ sustain หรือไม่" นายกานต์ กล่าว