นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN)เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพิจารณาขยายขนาดกองทุนอสังหาริมทรัพย์ CPNRF อีก 3-4 พันล้านบาทในปี 53 ด้วยการขายศูนย์การค้าเซ็นทรัลสาขาเชียงใหม่ให้เป็นสินทรัพย์ของกองทุน ซึ่งเลื่อนออกไปจากปีนี้ หลังจากที่มีการเพิ่มขนาดกองทุน 6-7 พันล้านบาทด้วยการขายสินทรัพย์ศูนย์การค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้าให้กับกองทุนในไตรมาส 4/52
การระดมทุนผ่านกองทุนเป็นแนวทางหนึ่งที่บริษัทจะนำเงินมาใช้ในการลงทุน โดยปีหน้าบริษัทมีแผนใช้เงินลงทุน 5.8 พันล้านบาท แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมและโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเข้าลงทุนในประเทศจีน คาดว่าจะสรุปภายในครึ่งปีหลังปีนี้ โดยพิจารณาทั้งการร่วมทุนกับกิจการเดิมในท้องถิ่น และลงทุนเองทั้งหมด
ส่วนการลงทุนในอินเดีย เวียดนาม ยังมีโอกาส แต่ถือว่าน้อยกว่าจีน เนื่องจากราคาที่ดินในทั้ง 2 แห่งสูงมาก ประกอบกับกำลังซื้อ
นายนริศ ยังเปิดเผยความคืบหน้าการส่งมอบพื้นที่สวนลุมไนท์บาซาร์ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในการส่งมอบพื้นที่ แต่ล่าสุดมีผู้ลงทุนต่างประเทศ 2 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นผู้ประกอบการจากญี่ปุ่น สนใจเข้าร่วมลงทุนในส่วนอาคารสำนักงาน ซึ่งบริษัทเองก็เห็นว่าหากมีพันธมิตรจะช่วยลดภาระการลงทุนได้ เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จะต้องลงทุนหลักหมื่นล้านบาท
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ คาดว่าครึ่งปีหลังรายได้จะดีกว่าครึ่งปีแรก หลังจากครึ่งปีแรกรายได้เติบโต 30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น ทั้งปีบริษัทเชื่อว่าจะมีรายได้มากกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 25% เนื่องจากมีการเปิดศูนย์การค้าใหม่ ที่จ.ชลบุรี และพัทยาบีช รวมทั้งมีการเข้าเทคโอเวอร์ห้างสรรพสินค้าที่อุดรธานี ทำให้รายได้สูงกว่าเป้าหมายที่เคยได้ประมาณการไว้
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะขยายสาขาเป็น 15 แห่งภายในสิ้นปี หลังจากเปิดสาขาใหม่ใน จ.ขอนแก่น จากนั้นปีหน้ามีแผนจะเปิดเพิ่มเป็น 18 สาขา เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นที่สาขาศรีนครินทร์, สาขาแห่งที่ 2 ใน จ.เชียงใหม่ และ สาขาพระราม 9