หุ้น KWH ราคาพุ่งขึ้น 7.48% มาอยู่ที่ 1.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 12.46 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.19 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.09 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.09 บาท
Fund Survey Trading Stocks บล.ฟาร์อีสท์ แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น บมจ.วิค แอนด์ ฮุคลันด์(KWH)ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 1.72 บาท/หุ้น ประเด็นสำคัญอยู่ที่เม็ดเงินโครงการไทยเข้มแข็งที่กรมชลประทานได้ไปสูงถึง 4.7 หมื่นลบ. ในปีงบประมาณ 53 ที่จะมีผลต่อธุรกิจของ KWH โดยตรง ประกอบกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมกำลังฟื้นตัว โดยแนวโน้มความนิยมของ PE เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้รายได้ของ KWH เติบโตอย่างเป็นสำคัญในปี 53 นี้
งบประมาณประจำปีของกรมชลประทานเพิ่มขึ้นทุกปีโดยมีนัยสำคัญ ซึ่งแนวโน้มการเปลี่ยนไปใช้ PE จะทำให้ KWH ได้รับประโยชน์ไปโดยปริยาย และถ้าเทียบกับงบไทยเข้มแข็งที่กรมชลประทานได้ไป 4.7 หมื่นลบ. ซึ่งถือว่ามากที่สุดเทียบกับหน่วยงานอื่นๆ จะเห็นได้ว่าภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับสาธารณูปโภคน้ำเป็นอย่างมาก เนื่องจากถือเป็นกระดูกสันหลังหลักของกระดูกสันหลังของประเทศ และแนวโน้มของงบประทานกรมชลประทานจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปีถัดไป
KWH เป็นผู้ผลิตท่อ PE ที่สัดส่วนการตลาดสูงสุด (40% ของตลาด PE 2,500 ลบ. จากมูลค่าตลาดท่อรวม 10,000 ลบ.) PE เป็นวัสดุเกรดพรีเมี่ยมที่ดีกว่า PVC จากความคงทนและการดูแลรักษา ทำให้ผู้ออกแบบระบบท่อน้ำต่างๆ เริ่มหันมานิยมใช้ PE กันมากขึ้น
ทั้งนี้ ได้ประมาณการสมมติฐานรายได้ของ KWH ในปี 2010 โดยคิดสัดส่วนงาน PE ของภาครัฐ เท่าเดิมที่ 2.8% ของงบประมาณ จะทำให้รายได้ของ KWH เพิ่มขึ้นเฉพาะงานภาครัฐเป็น 1,330 ลบ. และภาคเอกชนประมาณ 330 ลบ. เท่ากับปี 2009 (กรณีอนุรักษ์นิยม) กำไรสุทธิสูงถึง 78.4 ล้านบาท EPS 0.26 บาท ราคาเป้าหมาย 1.72 บาท อิงค่า P/E ที่ 6.6 เท่า (เฉลี่ยจากกลุ่มวัสดุก่อสร้างโดยตัดบริษัทใหญ่ออก และลดลงจากค่าเฉลี่ย P/E ที่ 7 เล็กน้อยเนื่องจากสภาพคล่อง) Upside 76%