ML เผยต่างชาติมาเยี่ยมบริษัทแต่ยังไม่สรุป/หวังได้พันธมิตรเสริมเงินทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 1, 2009 16:59 —SMS: IQ ข่าวหุ้น

นายธีรวัฒน์ เกียรติสมภพ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไมด้า ลิสซิ่ง(ML)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ถึงกระแสข่าวลือเรื่องที่มีนักลงทุนต่างชาติสนใจซื้อกิจการ รวมถึงงเรื่องการควบรวมกิจการว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน ที่ผ่านมาก็ยอมรับว่ามีนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาเยี่ยมดูกิจการอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่มีพัฒนาการใด ๆ หรือมีข้อสรุปอะไรออกมา และหากต่างชาติจะเข้ามาเป็นพันธมิตรก็คงจะต้องขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯด้วย

ข้อมูลล่าสุด(8 เม.ย.52)จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของ ML คือ บมจ. ไมด้า แอสเซ็ท (MIDA) ถือหุ้นจำนวน 2,400 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 60%

นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า หากบริษัทฯจะมีพันธมิตรใหม่ก็คงจะต้องมาช่วยทำให้ฐานเงินทุนของบริษัทฯแข็งแกร่งขึ้น และต้องมาช่วยเหลือในการพัฒนาเทคโนโลยีด้วย รวมถึงจะต้องทำให้บริษัทประหยัดต้นทุนทางการเงิน เพราะขณะนี้บริษัทได้ต้นทุนทางการเงินมาจากแบงก์ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงพอสมควร

"พันธมิตรที่จะเข้ามาในบริษัทฯจะต้องเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุน แม้ว่าขณะนี้บริษัทฯจะมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็น MIDA แต่ MIDA ก็ไม่ได้เป็นสถาบันการเงิน"นายธีรวัฒน์ กล่าว

กรรมการผู้จัดการ ML กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 52 ไว้ที่ 5% จากปีที่แล้ว แต่ก็ต้องขึ้นกับเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4/52 ด้วย โดยในปีนี้บริษัทมีรายได้เพิ่มเข้ามาจากการขายประกันชีวิตด้วย ซึ่งเป็นความร่วมมือกับทาง AIA และที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

สำหรับพอร์ตสินเชื่อของ ML ในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 3,000 ล้านบาท และปีนี้บริษัทฯคงจะพยายามรักษาไว้ให้คงเดิม ส่วนตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ก็พยายามทำให้มีน้อยที่สุด และขณะนี้ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ใช้ได้ ซึ่งทางแบงก์ยังรับได้อยู่ ซึ่งสิ้นไตรมาส 3/52 บริษัทฯก็คาดว่าจะมีสัดส่วน NPL ไม่เกิน 3.5% ของสินเชื่อรวม

ล่าสุด ราคาหุ้น ML ปิดตลาดที่ 0.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท(+25%)มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 13.54 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.13 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.15 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.13 บาท

ส่วนหุ้น MIDA ปิดตลาดที่ 0.81 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท(+28.57%)มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 33.27 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.64 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.81 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.64 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ