หุ้น TCB ราคาพุ่งขึ้น 5.10% มาอยู่ที่ 16.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 3.11 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.57 น. โดยเปิดตลาดที่ 16 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 16.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 16 บาท
Fund Survey Scanning Stocks บล.ฟาร์อีสท์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไทยคาร์บอนแบล็ค(TCB)บนสมมุติฐานยอดขายชิ้นส่วนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นตามยอดการผลิตรถยนต์ ขณะที่ราคาหุ้น TCB ยังคง Underperform ทำให้ความเสี่ยงขาลงอยู่ในช่วงจำกัด
บทวิจัยของ Auto Data เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรายงาน ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์สัญชาติเอเชียใน US ครองส่วนแบ่งมากถึง 52.3% ขณะที่สัญชาติ US ส่วนแบ่งลดลงเหลือ 40.8% อย่างไรก็ดียอดขายรถยนต์ที่ปรับตัวลดลง 28% ในช่วงแรกของ 8M09 กำลังพลิกฟื้นอย่างชัดเจน ทั้งนี้ยอดขายในสหรัฐเดือน ส.ค.ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 เดือน และ +1.0%YoY นับเป็นการปรับตัวแบบ YoY ครั้งแรกนับตั้งแต่ ต.ค. 50 โดยที่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นจากแรงหนุนของรัฐบาลสหรัฐในโครงการเก่าแลกใหม่เพื่อการประหยัดพลังงาน และจากภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ดูฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดแล้วนั้นส่งผลให้ บ็อบ คาร์เตอร์ รอง CEO ของ Toyota และ ไมเคิล นักวิเคราะห์จาก GM ออกมาตอกย้ำความมั่นใจว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกจะกลับมาเติบโตอย่างน่าประทับใจใน 4Q09 ทางด้านดัชนีกลุ่มยานยนต์สหรัฐปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดของปีนี้ 273% และ 22%QTD
จากอนาคตอุตสาหกรรมรถยนต์ที่กำลังพบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ในช่วง 2H09 จะเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าผลประกอบการของ TCB จะอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรายงานยอดผลิตรถยนต์ในไตรมาส 2 ที่ 189,000 คัน (กำลังผลิต 450,000 คัน) และจักรยานยนต์ที่ 462,000 คัน (750,000 คัน) ซึ่งเป็นจุดที่ต่ำสุดในรอบหลายปี ฝันร้ายกำลังจะกลายเป็นอดีตหลังจากนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้เป้าหมายปี 2553 ที่จะเริ่มการผลิต ECO Car จะช่วยผลักดันเป้าหมายยอดผลิตที่เกิน 1 ล้านคันอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นผลให้ SET กลุ่ม AUTO ปรับตัวขึ้น 12.3%QTD และ 57% จากจุดต่ำสุดของปี เช่นเดียวกับ SAT, AH และ STANLEY ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 167%, 130% และ 110% เทียบกับ TCB ซึ่งปรับตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของปี 52% แต่ +23.6%YTD
TCB เป็นผู้ผลิต Carbon Black ในกลุ่มปิโตรเคมีที่ผลิต Carbon Black Feed Oil (อิงกับราคาน้ำมันดิบ) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตยางรถยนต์ และจักรยานยนต์ โดยที่รายได้นั้นมีค่าความสัมพันธ์ (Correlation) กับยอดขายในกลุ่ม AUTO มากถึง 90% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนตลาดในประเทศอันดับหนึ่งสูงถึง 56% จะได้รับประโยชน์การฟื้นตัวของกลุ่มยานยนต์และราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในช่วง 60-75 USD/barrel ต้นทุนในผลิตที่สำคัญ คือ Carbon Black Feed Oil ที่ TCB บริหารต้นทุนล่วงหน้าประมาณ 3-6 เดือน จะทำให้ไตรมาส 3 และ 4 ในช่วงที่เหลือของปี จะแสดงยอดขายที่เติบโต และอัตรารักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ได้ที่เฉลี่ย 17%
ทั้งนี้ ได้ประมาณการรายได้ปี 09 ที่ 5,239 ลบ. กำไรสุทธิ 803 ลบ. คิดเป็น EPS 2.68 บาท และปี 2010 รายได้ 6,134 ลบ. กำไรสุทธิ 920 ลบ. คิดเป็น EPS 3.07 บาท บนสมมุติฐานการประเมินมูลค่าเฉลี่ย 10PE ของกลุ่ม Petro ที่ 13.5 เท่า และ Auto ที่ 23.2 เท่า ทำให้ได้ราคาเหมาะสม 30.6 บาท ณ สิ้นปี 2010 หรือ Upside 94% ทั้งนี้ TCB ซื้อขายที่ P/BV เพียง 0.6 เท่า (BV@24.80)