โบรกฯแนะ"ซื้อ/เก็งกำไร" TMB เชื่อปี 53 ฟื้น-มีปันผล หลังล้างขาดทุนสะสม

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 8, 2009 16:32 —SMS: IQ ข่าวหุ้น

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" หรือ "ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว" สำหรับหุ้น TMB จากคาดว่าปี 53 จะเห็นการฟื้นตัวที่แท้จริง จากปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ดีขึ้น หลังธนาคารลดพาร์ แม้ว่าจะล้างขาดทุนสะสมไม่ได้มาก แต่ก็ทำให้งบการเงินของธนาคารแข็งแกร่งขึ้น ทำให้คาดว่าจะจ่ายปันผลได้ ส่วนเรื่องการขายหุ้นให้พันธมิตร ยังเป็นประเด็นที่เล่นเก็งกำไรได้ จากก่อนหน้ามีข่าว ING สนใจและล่าสุดแบงก์ออฟ บาโรดาจากอินเดีย เสนอตัวเข้าซื้อหุ้น TMB

ช่วงบ่ายวันนี้ (เวลา 16.28 น.)ราคาหุ้น TMB อยู่ที่ 1.16 บาท ลบ 0.04 บาท (-3.33%) จากวานนี้ หุ้น TMB มีการเล่นเก็งกำไรมากทำให้ราคาปรับตัวขึ้นไปสูง 1.21 บาท และปิดที่ราคา 1.20 บาท บวก 0.11 บาท (+10.09%)ด้วยปริมาณซื้อขายหนาแน่น

          โบรกเกอร์       คำแนะนำ         ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)

          บล.ไอร่า        เก็งกำไร           1.40
          บล.กิมเอ็ง      ซื้อเมื่ออ่อนตัว         0.90
          บล.ฟาร์อีสท์      เก็งกำไร            -
          บล.ธนชาต         ถือ              0.80
          บล.กรุงศรีอยุธยา    ขาย             0.76

นส.สุกัญญา อุดมวรนันนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มองว่า เป็นหุ้นที่น่าสนใจ แม้เรื่องของปัจจัยพื้นฐานของธนาคารทหารไทย (TMB) ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะมีประเด็นว่าธนาคาร)จะลดพาร์เพื่อลดผลขาดทุนสะสม รวมทั้งจะจ่ายเงินปันผลในปีหน้า โดยเรื่องนี้ก็เคยเป็นข่าวแล้ว

และ ธนาคารจะจ่ายเงินปันผลได้ก็ต่อเมื่อหุ้นบุริมสิทธิ์ของกระทรวงการคลังได้แปลงเป็นหุ้นสามัญแล้ว ถึงจะลดพาร์ได้ คาดว่าทั้งหมดน่าจะเกิดปีหน้า ซึ่งคาดว่าปัจจัยพื้นฐานในปีหน้าจะดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในปี 53 น่าจะดีขึ้นทั้งกำไรและรายได้ แต่ยังไม่ได้ปรับราคาเป้าหมาย ส่วนปี 52 น่าจะดีกว่าปีก่อน "ถ้าจะซื้อ น่าจะดูตลาดรวม ถ้าย่อตัวลงมาก็น่าสนใจ และแนะลงทุนระยะยาว...ราคาปรับขึ้นมาเรื่อยๆ จากข่าวโน้นข่าวนี้ ตอนนี้หุ้นแบงก์ที่กระทรวงคลังถือจะเป็นกระแสข่าวเล่นกัน" นส.สุกัญญา กล่าว

บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เห็นว่ามีความเป็นไปได้ประเด็นการขายหุ้น TMB ของกระทรวงการคลัง (คลังถือ TMB อยู่ 22.56%) ให้กับพันธมิตรรายใหม่ (ในข่าวคือแบงก์ออฟ บาโรดา) เนื่องจากกลยุทธของ ING ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ล่าสุดได้ระบุว่า ต้องการที่จะขายเงินลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักหรือไม่ใช่ธุรกิจที่อยู่ในฐานะผู้นำตลาดภายในปีนี้ราว 10-15 แห่ง ซึ่งไม่ได้ระบุว่า TMB เข้าข่ายหรือไม่

ถ้าเป็นเช่นนั้นการขายหุ้นจากคลังล็อตนี้น่าจะนำไปสู่เหตุการณ์การขายหุ้น TMB แบบยกล็อตจากทั้งกระทรวงการคลังและ ING ให้กับบุคคลที่สาม ซึ่งจะทำให้ถือรวมกันทั้งหมดราว 56% (จากคลัง 26.1% และจาก ING 30%) และกรณีนี้อาจต้องทำคำเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ราคาเท่ากับที่ซื้อจากคลังและ ING

แม้ว่าจะเป็นประเด็นให้เก็งกำไรในส่วนของราคาซื้อขาย แต่เราแนะนำให้เป็นไปด้วยความระมัดระวังเนื่องจากยังมีความเสี่ยงอื่นที่ยังไม่ชัดเจนและอาจส่งผลต่อความผันผวนราคาหุ้น อาทิ ราคาขาย, เวลาการซื้อขาย (ซึ่งเราคาดว่าไม่รวดเร็วในปีนี้ และอย่างเร็วอาจต้องรอให้หุ้นบุริมสิทธิของก.การคลังครบกำหนดก่อนในปี 53) และ TMB ยังมีคุณสมบัติที่เสี่ยงต่อการติด Turnover list ด้วย

อนึ่ง หุ้น TMB ติด Cash Balance เริ่มเมื่อ 24 ส.ค. -11 ก.ย.52

ส่วน บล.ธนชาต มองว่าจากประเด็นข่าวที่กระทรวงการคลังมีแผนที่จะขายหุ้นธนาคารทหารไทย ให้กับ ING ซึ่งจากรายงานข่าว กล่าวว่าราคาขายจะอยู่ที่ราว 1.60 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ตกลงกับ ING ตอนที่เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งก่อนในปี 50

ปัจจุบันกระทรวงการคลังถือหุ้น TMB อยู่ 22.56% (แต่หากรวมหุ้นบุริมสิทธิ์จะถือ 26%) ขณะที่ ING ถือหุ้นที่มีสิทธิโหวต 25% และอีก 4.9% ไม่มีสิทธิโหวต

เราคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่กระทรวงการคลังจะขาย TMB ออกไป แต่เราไม่เห็นความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับ ING ที่จะเข้าซื้อหุ้นนี้ เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ระดับเพียง 0.90 บาท เท่านั้น ขณะที่ ING ไม่สามารถที่จะได้รับปันผลจาก TMB จนกว่าขาดทุนสะสม (2.1 บาท/หุ้น) และส่วนลดมูลค่าหุ้น (7 บาท/หุ้น) จะหมดไป (โดยการลดพาร์) ในช่วงปีหน้า นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังกล่าวว่า แผนดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องเร่งด่วน

หาก ING เข้าซื้อหุ้น IMB ทั้งหมด 26% ING เป็นไปได้ที่จะต้องทำคำเสนอซื้อสำหรับหุ้นที่เหลือ (เรากำลังรอการยืนยันจาก regulator) แต่ในมุมมองของเรา เรามองว่าไม่มีความจำเป็น ING ต้องเร่งเจรจากับกระทรวงการคลัง หากราคาทำคำเสนอซื้ออยู่ในระดับเดียวกับราคาที่กระทรวงการคลังต้องการ ปัจจุบัน TMB มีหุ้นสามัญราว 41 พันล้านหุ้น และหุ้นบุริมสิทธิ์ 1.9 พันล้านหุ้น (ซึ่งกระทรวงการคลังถือทั้งหมด)

หุ้น TMB เป็นไปได้ที่จะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่เป็นบวกต่อข่าวดังกล่าว แต่กำหนดเวลาการขายเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถรู้ได้ เราแนะนำ “ถือ" TMB โดยมีราคาเป้าหมายที่ 0.8 บาท/หุ้น TMB บาดเจ็บจากการหดตัวลงของสินเชื่อ และเงินฝากราว 14% (เทียบกับอุตสาหกรรมที่ 2%) และ 11% ตามลำดับ ขณะที่มี NPL ในระดับที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมที่ 16% (เทียบกับ 7% ของทั้งกลุ่มฯ)

"เราคาดว่าการฟื้นตัวขึ้นที่แท้จริงจะเกิดขึ้นในปี 53 และคาดว่ากำไรปกติจะเพิ่มขึ้นจาก 3 พันลบ. มาอยู่ที่ 5.3 พันลบ. TMB ซื้อขายที่ระดับ P/BV ที่ 0.9 เท่าในปี 52" บทวิจัยระบุ

ด้านนายธนัท รังสีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา คาดว่าผลประกอบการปี 53 ดีขึ้น จากปี 52 ที่คาดว่าผลประกอบการยังไม่ดี โดยการปล่อยสินเชื่อยังไม่ดี เพราะแบงก์ก็ระวังเรื่องเอ็นพีแอล ขณะที่ประเด็นที่ ING เข้ามาซื้อหุ้น TMB เพิ่มจากกระทรวงการคลัง โดยก่อนหน้านี้ซื้อในราคาหุ้นละ 1.60 บาท ก็ทำให้มีการเก็งกำไรหุ้น TMB เพราะเห็นอัพไซด์ ทั้งๆที่ปัจจัยพื้นฐานธนาคารยังไม่เปลี่ยน

ส่วนการจ่ายเงินปันผลเป็นการจ่ายปันผลของผลประกอบการของปี 53 เพราะยังมีขาดทุนสะสมอยู่กว่าแสนล้านบาท โดยลดพาร์ แต่ต้องรอให้หุ้นบุริมสิทธิ์ที่คลังถืออยู่ครบกำหนดแปลงเป็นหุ้นสามัญในปลายปีหน้า แม้ว่าจะล้างขาดทุนสะสมไม่ได้มาก แต่ก็ทำให้งบการเงินของธนาคารแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ