โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซินเท็คคอนสตรัคชั่น(SYNTEC)มองผลกำไรสุทธิปีหน้า 53 ฟื้นตัว หลังเสร็จสิ้นภาระการตั้งสำรองฯโครงการบ้านเอื้ออาทรที่เหลืออีก 60-70 ล้านบาทในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ซึ่งทำให้ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/52 น่าจะยังขาดทุนอยู่ พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ที่ 87-132 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว เป็นผลจากการตั้งสำรองฯโครงการบ้านเอื้ออาทร ส่วนปีหน้าคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ในช่วง 233-299 ล้านบาท
ช่วงนี้ SYNTEC มีสภาพคล่องทางการเงินสูง และล้างขาดทุนสะสมไปหมดแล้ว ธุรกิจหลักยังมีโอกาสได้งานภาครัฐเพิ่มส่วนงานคอนโดมิเนียมสร้างเพื่อขายเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า มีโอกาสได้งานก่อสร้างคอนโดฯในปีหน้า รวมทั้งแนวโน้มธุรกิจในกลุ่มรับเหมาฯก็ดูดีขึ้น อีกทั้งยังมีที่ดินรอการพัฒนา 55 ไร่ ราคาตลาดอยู่ที่ 160 ล้านบาท ขณะที่ตัวเลขทางบัญชีตีไว้ที่ 99.6 ล้านบาท ซึ่งถือว่า SYNTEC มีสินทรัพย์ที่ดีตรงนี้
และ ราคาหุ้น SYNTEC ในปัจจุบันถือว่าต่ำมาก ในเชิง P/E และ P/BV โดยคาดว่ามูลค่าทางบัญชี(Book value)ที่คาดว่าปีนี้(2552)น่าจะอยู่ที่ 1.15-1.16 บาท/หุ้น และปี 2553 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.27-1.3 บาท/หุ้น
โบรกฯ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท) บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 0.66 บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ซื้อ 0.89 บล.ทรีนิตี้ ซื้อ 0.90 บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ซื้อ 0.70
นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า สาเหตุที่แนะนำให้"ซื้อ"หุ้น SYNTEC เป็นการมองข้ามไปปีหน้าที่คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 53 จะอยู่ที่ 237 ล้านบาท เติบโต 172% จากปี 52
แต่ปีนี้คาดว่ากำไรจะยังไม่ค่อยดี โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 87 ล้านบาท ลดลง 68% จากปี 51 ที่มีกำไร 268 ล้านบาท เป็นเพราะปีนี้ SYNTEC ยังต้องเผชิญกับภาระการขาดทุนมากจากโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่ได้ไปร่วมลงทุนกับบริษัท ไมวาน แต่ปีหน้าผลการขาดทุนจากโครงการนี้จะน้อยลงมากแล้ว
อีกทั้ง SYNTEC ยังมีโอกาสที่จะได้งานจากภาครัฐเพิ่มเติมอีก อย่างเช่น งานสร้างโรงพยาบาล, ศาล และสถานที่ราชการ ส่วนงานคอนโดมิเนียมสร้างเพื่อขายนั้น ขณะนี้ก็เริ่มดีขึ้นโดยเฉพาะบริเวณที่มีโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งก็น่าจะมีโอกาสได้งานก่อสร้างคอนโดฯในปีหน้าด้วย
นอกจากนี้ SYNTEC ยังมีข่าวดีเล็ก ๆ จากมีที่ดินรอการพัฒนาอยู่ 55 ไร่ ซึ่งราคาตลาดเวลานี้อยู่ที่ 160 ล้านบาท ขณะที่ตัวเลขทางบัญชีตีไว้ที่ 99.6 ล้านบาท ซึ่งถือว่า SYNTEC มีสินทรัพย์ที่ดีอยู่
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส มองว่า SYNTEC เป็นหุ้นที่มีแนวโน้มของกำไรขาขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปีนี้ จากมาร์จินที่ดีขึ้น, มีงานมากขึ้น และตอนนี้ราคาหุ้นยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ขณะที่งานในมือ(Backlog)สูงถึง 7,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ได้คาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(52)ของ SYNTEC ไว้ที่ 107 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิที่ 268 ล้านบาท เนื่องจากในครึ่งแรกปีนี้ได้มีการตั้งสำรองรายการพิเศษไว้มาก ทำให้กำไรชะลอตัว แต่ปีหน้าคาดว่ากำไรจะกลับมาฟื้นตัวขึ้น โดยคาดว่าปี 53 กำไรสุทธิของ SYNTEC จะอยู่ที่ 233 ล้านบาท
นายเถลิงศักดิ์ ตันติพินธวัตร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ SYNTEC ในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะยังไม่ดี เพราะต้องตั้งสำรองความเสี่ยงอันเนื่องมาจากโครงการบ้านเอื้ออาทรอีกราว 60-70 ล้านบาท จากทั้งหมดราว 200 ล้านบาทที่ได้ตั้งไปแล้วส่วนหนึ่งประมาณกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งทำให้ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/52 น่าจะยังขาดทุนอยู่
อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำให้"ซื้อ"หุ้น SYNTEC เพราะแนวโน้มข้างหน้าจะดีขึ้น โดยปีหน้า SYNTEC อาจจะนำส่วนที่ได้ตั้งสำรองฯไว้บุ๊คกลับเข้ามาเป็นรายได้ โดยล่าสุดทาง SYNTEC ได้ขอขยายระยะเวลาการก่อสร้างบ้านเอื้ออาทรออกไปแล้ว และมีโอกาสที่ทางรัฐบาลจะอนุมัติให้ขยายได้ ซึ่งหากรัฐฯอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการก่อสร้างออกไปก็จะทำให้ SYNTEC สามารถนำส่วนที่ได้ตั้งสำรองไว้ตีกลับเข้ามาเป็นรายได้
ช่วงนี้ SYNTEC มีสภาพคล่องทางการเงินสูง และได้ล้างขาดทุนสะสมออกไปหมดแล้ว รวมทั้งแนวโน้มธุรกิจในกลุ่มรับเหมาฯก็ดูดีขึ้น ซึ่งมองว่ากลุ่มรับเหมาฯน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้จากโครงการ"ไทยเข้มแข็ง"ด้วย ดังนั้นบริษัทฯจึงถือว่ามีปัจจัยพื้นฐานที่ใช้ได้
นายเถลิงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ราคาหุ้น SYNTEC ในปัจจุบันถือว่าต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี(Book value)ที่คาดว่าปี 52 น่าจะอยู่ที่ 1.16 บาท/หุ้น และปี 53 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.3 บาท/หุ้น
ส่วนกำไรสุทธิของ SYNTEC ในปีนี้(2552)คาดว่าจะอยู่ที่ 132 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว(2551)ที่มี 268 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้ SYNTEC จะต้องรับภาระในเรื่องของการตั้งสำรองจากโครงการบ้านเอื้ออาทร แต่ปีหน้า(2553)คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 299 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น SYNTEC ในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำ ทั้งในเชิง P/E และ P/BV ทำให้เห็นว่าราคาปัจจุบันนี้มี downside ไม่มากแล้ว โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าทางบัญชี(Book value)ปีนี้(2552)จะอยู่ที่ 1.15 บาท/หุ้น ส่วนปีหน้า(2553)น่าจะอยู่ที่ 1.27 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังปีนี้มองว่า SYNTEC ยังมีเรื่องของบ้านเอื้ออาทรอยู่ โดยคาดว่า SYNTEC จะต้องตั้งสำรองฯในส่วนนี้ประมาณ 60 ล้านบาทในช่วงครึ่งหลังปีนี้ แต่เมื่อเสร็จเรื่องของบ้านเอื้ออาทรในปีนี้แล้วก็น่าจะทำให้ปีหน้า SYNTEC ดูดีขึ้น โดยคาดว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน เป็นผลจากการตั้งสำรองฯจากโครงการบ้านเอื้ออาทร