นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ ปรเธานเจ้าหน้าที่คณะผู้บริหาร บมจ.ไทยคม(THCOM)กล่าวยืนยันว่า บริษัทไม่ได้เคยได้รับการติตต่อจาก บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น(SAMART)ในการเข้าซื้อหุ้นบริษัท ทั้งการติดต่อผ่านบริษัทโดยตรง หรือผ่านทาง บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท
ทั้งนี้ หาก SAMART ต้องการเข้ามาซื้อกิจการ THCOM ในรูแบบเทกโอเวอร์จะต้องใช้เงินเกือบ 1 หมื่นล้านบาทจากการประเมินมูลค่าตามราคาตลาด
"SAMART เคยเป็นข่าวว่าจะเข้าซื้อกิจการของเรามาแล้วรอบหนึ่ง แต่ตลอด 3-5 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีการพูดคุยหรือเจรจาโดยครงกับผู้บริหาร เพราะโดยส่วนตัวผมก็เป็นผู้บริหารใน SHIN ด้วย และไม่เห็นประโยชน์ว่า SAMART จะนำธุรกิจด้านดาวเทียมไปสานต่ออย่างไร เพราะธุรกิจดาวเทียมกว่าจะเห็นกำไรใช้เวลานาน แต่หากซื้อผ่านเทมาเส็ก ผมไม่สามารถตอบคำถามแทนได้ หากมองโดยหลักการเป็นเรื่องยาก เพราะเทมาเส็กไม่ได้ถือหุ้นเราโดยตรง"นายอารักษ์ กล่าว
นายอารักษ์ กล่าวยอมรับว่า ที่ผ่านมาบริษัทใช้เงินลงทุนมหาศาลในการทำธุรกิจดาวเทียม จึงมีผู้สนใจร่วมลงทุนในหลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่จะเข้ามาในรูปแบบเป็นพันธมิตรที่บริษัทเข้าไปลงทุน ตัวอย่างเช่น iPSTAR บริษัทต้องมีพันธมิตรในแต่ละประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นองค์กรรัฐ และต้องใช้เวลาในการเจรจาและทำการตลาด ซึ่งปัจจุบัน บริษีทสามารถเจรจาลุล่วงแล้ว 14 ประเทศ
ล่าสุด บริษัทอยู่ระหว่างติดตั้ง Gatewayในอินเดีย ซึ่งคาดว่าจะแล้วภายในเดือน ต.ค.นี้ และจะเริ่มรับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้ เช่นเดียวกับของจีน ได้ลงนามสัญญาร่วมกับไชน่า เทเลคอม เชื่อว่ารายได้จากจีนจะเข้ามาในปีนี้เช่นเดียวกัน