บมจ. อินโดรามา โพลีเมอร์ส (IRP) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 6/2552 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2552 มี มติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการขอเพิกถอนหุ้นของบริษัท จำนวน 1,382,197,870 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 1,382,197,870 บาท ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการดำเนินการส่วนหนึ่งตามแผนการปรับโครงสร้างฯ ซึ่งหากการทำ IPO ของ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (IVL) ไม่ประสบผลสำเร็จ IVL จะยกเลิกการทำคำเสนอซื้อและจะไม่มีการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทั้งนี้ บริษัทกำหนดวันประชุมชี้แจง (Presentation) เพื่อเสนอแนะความเห็นเกี่ยวกับการขอถอนหุ้น กำหนดวันประชุมชี้แจง (Presentation) ในวันที่ 19 ตุลาคม 2552 กำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2552 ในวันที่ 27 ตุลาคม 2552 เวลา 10.00 น. โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ในวันที่ 5 ตุลาคม 2552 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 6 ตุลาคม 2552 (วันทำการถัดจากวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น)
สืบเนื่องจากการที่บริษัทได้รับแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการระหว่างบริษัท และ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) (IVL) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท (แผนการปรับโครงสร้างฯ) ซึ่งตามแผนการปรับโครงสร้างฯ ดังกล่าว IVL มีความประสงค์จะปรับโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มบริษัท โดยจะนำหุ้นของ IVL เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการดำเนินการดังกล่าว IVL จะเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) พร้อมกับดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทจากผู้ถือหุ้นของบริษัทยกเว้นหุ้นของบริษัทที่ IVL และ บริษัทย่อยของ IVL ถืออยู่ โดยจะชำระค่าตอบแทนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ IVL (การแลกหุ้น) และจะดำเนินการเพิกถอนหุ้นของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ดังนั้น ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ตอบรับคำเสนอซื้อของ IVL จะเปลี่ยนสถานะเป็นผู้ถือหลักทรัพย์ของ IVL ซึ่งจะมีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ตามแผนการปรับโครงสร้างฯ ของ IVL นั้น IVL เห็นว่า การขอถอนหุ้นของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนจะเป็นการดำเนินการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทเป็นสำคัญ กล่าวคือเป็นการช่วยขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตระหว่าง IVL และบริษัท และการที่บริษัท และ IVL มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนด้วยกันทั้งสองบริษัทอาจมีผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง
สำหรับการชำระด้วยหุ้นเพิ่มทุนของ IVL ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่นำหุ้นมาเสนอขาย ในอัตรา 1 หุ้นของบริษัท ต่อ 1.2320 หุ้นของ IVL โดยจะไม่มีการชำระค่าตอบแทนหุ้นของบริษัทในรูปของตัวเงิน ในกรณีที่มีเศษหุ้นให้ปัดทิ้ง และจะไม่มีการจ่ายเงินชดเชยเพื่อชำระค่าเศษหุ้นที่ปัดทิ้งนั้น
แผนการปรับโครงสร้างฯ กำหนดว่า IVL จะทำการปรับอัตราส่วนสำหรับการแลกเปลี่ยนหุ้นของบริษัทดังกล่าว หากราคา IPO ของหุ้นของ IVL ต่ำกว่าราคาหุ้น IVL ที่คำนวณได้จาก "ราคาอ้างอิงของหุ้น IRP" ซึ่งกำหนดไว้เท่ากับ 14 บาทต่อหุ้นหารด้วยอัตราการแลกเปลี่ยนหุ้น IVL (1.2320) ซึ่งการปรับอัตราส่วนสำหรับการแลกเปลี่ยนหุ้นดังกล่าวจะกระทำโดยใช้ "ราคาอ้างอิงของหุ้น IRP" ซึ่งกำหนดไว้เท่ากับ 14 บาท ต่อหุ้นหารด้วยราคา IPO ซึ่งถูกหักด้วยส่วนลดร้อยละ 3 และใช้ทศนิยม 4 ตำแหน่ง ทั้งนี้ อัตราการแลกเปลี่ยนหุ้นใหม่นี้จะเป็นอัตราที่ดีขึ้นกว่าเดิม และเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นของ IRP ที่ตอบรับคำเสนอซื้อในครั้งนี้
อนึ่ง "ราคาอ้างอิงของหุ้น IRP" หมายถึง ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 15 วันทำการของหุ้นของบริษัทก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัทของ IVL เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2552 บวกส่วนเพิ่มร้อยละ 13.09
ชื่อที่ปรึกษาทางการเงินของผู้เสนอซื้อ คือ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ส่วนที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ คือ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด