นายปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด บริษัทในเครือซิเมนต์ไทย (SCG Cement)เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในปี 52 จะมีปริมาณการขายปูนซิเมนต์ 17-18 ล้านตัน จากปริมาณในตลาดรวมประมาณ 24 ล้านตัน แบ่งเป็นการขายในประเทศประมาณ 9 ล้านตัน และส่งออกประมาณ 7-8 ล้านตัน โดยปีนี้ช่วงต้นปียอดขายติดลบถึง 7% ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัว
แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลัง ยอดขายปูนซิเมนต์จะกลับมาเป็นบวก เนื่องจากความเชื่อมั่นเริ่มฟื้นกลับมาทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศ หลังจากมีมาตรการภาครัฐที่มีการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเชื่อว่าในช่วงไตรมาส 4/52 จะมีปริมาณการใช้ปูนซิเมนต์เพิ่มมากขึ้น
สำหรับตลาดต่างประเทศแม้ว่าตลาดสหรัฐฯ จะมีปัญหา แต่บริษัทก็ได้ขยายตลาดไปยังแอฟริกา ประเทศแถบอาเซียนและเอเชียใต้ จากเดิมที่ตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดใหญ่ที่บริษัทส่งออกถึง 1 ใน 3
นอกจากนี้ บริษัทยังเน้นพัฒนาปูนซีเมนต์ในรูปแบบใหม่ โดยมีงบประมาณด้านการพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 180 ล้านบาท/ปี โดยล่าสุดได้ออกปูนตราช้างทนน้ำทะเล ซึ่งมีอายุการใช้งานทนทานกว่าเดิมถึง 2 เท่า แม้ว่าราคาขายจะแพงกว่าปูนทั่วไปประมาณ 20% แต่เชื่อว่าผู้บริโภคจะเลือกใช้ เนื่องจากอายุการใช้งานที่มากกว่าและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เบื้องต้นคาดมียอดขายประมาณ 100 ล้านบาท
"ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การใช้ปูนฯ หดตัวอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่าผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว หลังจากนี้เชื่อว่าการใช้ปูนจะกลับมาสู่จุดเดิมที่ 18 ล้านตัน/ปี แต่คงเป็นในรูปแบบค่อยๆ ฟื้นตัว และหวังว่ามาตรการต่างๆ ที่กระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยให้การใช้ปูนกลับมาฟื้นตัวด้วย"นายปราโมทย์ กล่าว