หุ้น CK ราคาวิ่งขึ้น 4.67% มาอยู่ที่ 5.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 163.52 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.41 น. โดยเปิดตลาดที่ 5.45 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.65 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.45 บาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตนชัย ผู้บังคับบัญชา สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ได้แนะนำให้"ซื้อ"หุ้น บมจ.ช.การช่าง(CK) โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 6 บาท/หุ้น ซึ่งคาดว่ากำไรสุทธิในปีหน้า(2553)จะเติบโตประมาณ 33% โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 213 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้(2552)ที่มีกำไรสุทธิ 161 ล้านบาท
เนื่องจากปีหน้า CK จะมีการรับรู้รายได้จากเขื่อนน้ำงึมในช่วงไตรมาส 4/53 และ CK ก็ยังมีความโดดเด่นจากโครงการของภาครัฐฯ รวมทั้งได้มีการเข้าร่วมประมูลงานโครงการรถไฟฟ้าในทุกสายอีกด้วย
ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน ระบุว่า การลงทุนโครงการก่อสร้างของภาครัฐฯ เพิ่มขึ้น 13%y-y ใน 2Q09 จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 1 ส่งผลให้ภาพรวมของการก่อสร้างเติบโต 2% y-y ใน 2Q09 เป็นบวกครั้งแรก หลังจากลดลง 4 ไตรมาสติดต่อกัน คาดว่าการใช้จ่ายลงทุนของภาครัฐฯ จะยังมีแนวโน้มเติบโตในช่วงที่เหลือของปี จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 หรือ “แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555" ซึ่งมีเม็ดเงินรวม 1,431 พันล้านบาท และเน้นการลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง
ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน(PrivateInvestment Index) ในเดือน ก.ค. 09 ยังคงลดลง 14.3% y-y แต่มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับที่ลดลง 15.3% y-y ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานเคมีภัณฑ์และพลังงาน ฟื้นตัวขึ้นในงวด 1H09 ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่การขยายกำลังการผลิตของโรงงาน ส่วนเครื่องชี้การก่อสร้างภาคพาณิชยกรรม และภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอตัวอยู่ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ คาดอัตรากำไรของกลุ่มรับเหมาฯจะมีแนวโน้มดีขึ้น จากการลดลงของราคาวัสดุก่อสร้าง ทั้งนี้แม้ว่าราคาน้ำมัน และราคาเหล็กอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นใน 2H09F จนถึงปี 2010F ตามการฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม คาดว่าระดับราคาจะไม่สูงอย่างที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปี 2008 ซึ่งน่าจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถ บริหารจัดการต้นทุนการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ