โบรกฯแนะ"ซื้อ"AH พลิกฟื้นช่วงครึ่งปีหลังตามอุตฯยานยนต์-เห็นชัดเจนปี 53

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 28, 2009 14:47 —SMS: IQ ข่าวหุ้น

โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ/เก็งกำไร"หุ้น บมจ.อาปิโก ไฮเทค(AH)มองภาพรวมผลประกอบการในครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ และการเน้นผลิตสินค้าที่สร้างกำไรได้สูงขึ้น ขณะที่ออร์เดอร์เข้าคิวมาเพียบ ทั้งถังน้ำมันจากค่ายฟอร์ด-อีซูซุ ชิ้นส่วนอีโคคาร์ค่ายนิสสัน พร้อมรับอานิสงส์รถยนต์ค่าย GM เติบโตได้ดีในตลาดจีน และรถรุ่นเล็ก"เชอร์รี่"ก็ยังขายดี คาดว่าจะได้เห็นการเติบโตอย่างชัดเจนในปี 53

ทั้งนี้ โบรกเกอร์บางรายอยู่ระหว่างการปรับประมาณการในปีนี้และปีหน้า รวมทั้งปรับราคาเป้าหมาย ขณะที่ราคาในปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี

          โบรกฯ                         คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.เอเชีย พลัส                    ซื้อ            11.34
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)     ซื้อ             9.66
          บล.กรุงศรีอยุธยา                เก็งกำไร           8.20 (กำลังปรับเพิ่มประมาณการ)
          บล.ซิกโก้                         ซื้อ             9.70
          บล.เกัยรตินาคิน                    ซื้อ        (กำลังปรับราคาเป้าหมาย)

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า สถานการณ์ของ AH ในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเป็นภาพที่ปรับตัวขึ้นดีกว่าครึ่งแรก เพราะเริ่มมีการแสดงสัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งจะส่งผลในทางบวกต่อ AH ที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ ประกอบกับ มีแนวโน้มของรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำกำไรสูงขึ้นเข้ามามากกว่าครึ่งปีแรก

DBSV ให้ราคาพื้นฐานหุ้น AH ที่ 9.66 บาท P/BV ที่ 0.6 เท่า แต่เนื่องจากราคาหุ้นปรับขึ้นมาค่อนข้างเร็ว ตอนนี้เทรดที่ 8.65 บาท มี upside ประมาณ 12% ยังพอซื้อได้ เพราะในเชิงของ valuation ที่ให้ target ก็ไม่ได้เป็นระดับที่ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับราคาที่เคยเทรดอยู่

นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส คาดว่า AH จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ถึงในแง่ของกำไรในปีนี้จะยังไม่ได้ดีมาก แต่จะเริ่มเห็นปีหน้า โดยคาดว่าปีนี้จะมีกำไรประมาณ 11 ล้านบาท และปีหน้ากำไรเพิ่มขึ้นเป็น 204 ล้านบาท

"ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการที่อยู่ในกลุ่มเล็กๆ turnaround และจะเริ่มดูดีครึ่งปีหลัง แม้ครึ่งแรกติดลบ แต่ครึ่งหลังดีขึ้น เมื่อรวมกับครึ่งแรกติดลบหักไปก็จะเหลือเติบโตเล็กน้อย แต่ปีหน้าก็จะเห็นการเติบโตที่ชัดเจน การปรับตัวลงของราคาหุ้นจะเป็นจังหวะการสะสม"นางภรณี กล่าว

นายดิษฐนพ วัธนเวคิน นักวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า หลังจากเข้าพบผู้บริหาร AH ทำให้มีความมั่นใจในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์มากขึ้น และจากแผนการขยายธุรกิจของ AH เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ทำให้เราอาจจะมีการปรับประมาณและราคาเหมาะสมเพิ่มขึ้น จากเดิมให้ราคาเป้าหมายปี 52 ที่ 4.28 บาท

"มีความมั่นใจมากขึ้น เบื้องต้นราคาหุ้น AH ก็ยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ณ สิ้นไตรมาส 2/52 อยู่ที่ประมาณ 15.67 บาท และในอนาคตถ้ามองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัว ในเบื้องต้นมองว่าฟื้นตัวชัดเจนแน่นอน แต่ถ้าในระยะยาวยังไม่มั่นใจมากนักว่าจะฟื้นตัวเยอะหรือค่อยๆ ทีละนิด เราก็อยู่ระหว่างประมาณการ คงปรับเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่สมบูรณ์"นายดิษฐนพ กล่าว

ราคาเป้าหมายเดิมอยู่ที่ 4.28 บาท แต่จะปรับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าไรนั้นยังตอบไม่ได้ แต่ติดว่า book ค่อนข้างสูงจากราคาปัจจุบัน ถ้าดูจากช่วงก่อนเกิดวิกฤตราคาหุ้น AH อยู่ประมาณ 6-7 บาท ตอนนี้ราคาหุ้นกลับมาเกือบอยู่ระดับที่เดิมแล้ว ขณะที่มุมมองอยู่ในช่วงฟื้นตัว ผลประกอบการน่าจะดีขึ้น

"มี 2 ด้าน คือมีความเสี่ยงทางด้านราคาที่ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด 100% กว่าแล้ว ในขณะที่ยังมีความปลอดภัยจากมูลค่าทางบัญชีที่ยังต่ำกว่า ถ้าลงทุนก็เพราะมองว่าในอนาคตมีแนวโน้มฟื้นตัวแน่นอน"นายดิษฐนพ กล่าว

บล.กรุงศรีอยุธยา แนะ"เก็งกำไร"AH มีผลการดำเนินงานฟื้นตัวดีกว่ากลุ่ม โดยคาดว่าลูกค้าผู้ผลิตรถยนต์จะมีคำสั่งซื้อกลับเข้ามามากขึ้น และบริษัทยังมีออร์เดอร์ใหม่ในการผลิตถังน้ำมันสำหรับค่ายรถฟอร์ดและอีซูซุ ในขณะที่แนวโน้มในปี 53 บริษัทได้ออร์เดอร์ผลิตชิ้นส่วนสำหรับรถอีโคคาร์ของค่ายนิสสัน มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าปี 53 AH จะมีผลการดำเนินงานพลิกจากขาดทุนปีนี้ที่ 30 ล้านบาท มาเป็นกำไร 141 ล้านบาทในปี 53

แม้ราคาหุ้น AH ในปัจจุบันจะใกล้เคียงราคาพื้นฐานแล้ว แต่เรามีแนวโน้มปรับเพิ่มประมาณการราคาเป้าหมาย AH เร็วๆนี้ เนื่องจากหลังจากได้สอบถามถึงแนวโน้มธุรกิจ พบว่าออร์เดอร์ใหม่ที่บริษัทได้รับมีแนวโน้มสูงกว่าประมาณการเดิมของเรา 17% และ 33% ในปี 52-53 ตามลำดับ

ขณะที่ บล.ซิกโก้ มองว่า ราคาหุ้น AH ยังต่ำกว่าราคาเหมาะสมที่อยู่ในระดับ 9.70 บาท ซึ่งอิง P/BV ที่ 0.60 เท่า(อิงค่าเฉลี่ย P/BV ย้อนหลัง 2 ปี) ราคา ณ ปัจจุบันยังมี upside ที่ 15.6% อีกทั้ง AH จะได้รับอานิสงค์จากการเติบโตของตลาดจีนในส่วนของค่าย GM และรถยนต์ค่าย Cherry ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่สูงต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ