นายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการ บมจ.การบินไทย(THAI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันนี้ให้ความเห็นชอบกรอบแผนธุรกิจ 5 ปีที่จะเริ่มใช้ในปี 53 ซึ่งจะครอบคลุมถึงการวาง position ของการบินไทยในตลาดใน 5 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะกลับมาเป็นสายการบินที่ติดอันดับ TOP 5 จากปัจจุบันติดอยู่ 1 ใน 10 และจะเป็น Global Number 1 ด้านความปลอดภัยและการให้บริการลูกค้า
ในแผนงานดังกล่าวยังรวมถึงเรื่องของฝูงเครื่องบินที่จะมีการปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาด ส่วนแหล่งเงินในแผนงานดังกล่าวก็จะเปิดกว้างให้สามารถพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ รวมถึงการเพิ่มทุน ทั้งหมดนี้ก็จะมอบหมายให้นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ พิจารณาหลังจากเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ในวันที่ 19 ต.ค.นี้ โดยให้หารือร่วมกับผู้บริหารคนอื่น ๆ
"แผน 5 ปีทั้งหมดนี้เราจะให้เป็นการบ้านกับคุณปิยสวัสดิ์ลงมาดูแลว่าจะทำอย่างไร รวมทั้งเรื่องเพิ่มทุนด้วย"นายอำพล กล่าว
สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทในขณะนี้ นายอำพน กล่าวว่า ใน 3 เดือนข้างหน้า หรือในไตรมาส 4/52 บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ไม่ต่ำกว่า 75% และรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วย (Passenger Yield) ไม่ต่ำกว่า 2% เพื่อให้ทำผลงานให้ได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ
แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้ EBITDA ของบริษัทจะต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาทตามที่เคยวางแผนไว้ก่อนหน้าและได้ปรับลดเป้าหมายแล้ว เนื่องจากไตรมาส 2/52 ได้มีเหตุการณ์ความวุ่นวายจากการชุมนุมทางการเมืองและเกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ทำให้รายได้และกำไรลดลงอย่างมาก แต่การปรับลดค่าใช้จ่ายยังเป็นไปตามเป้าหมาย
"เราได้วาง Target 3 เดือนสุดท้าย ต้องมี Cabin Factor ไม่ต่ำกว่า 75% เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายของแผนฟื้นฟูฯ ตอนนี้ผู้โดยสารก็เริ่มกลับมาแล้ว เชื่อว่าเราจะสามารถ put target ได้ตามแผนฟื้นฟูฯ"นายอำพน กล่าว