นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานกรรมการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) คาดว่า จะสามารถเปิดขายซองเอกสารประกวดราคาโครงการเช่าและซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว(เอ็นจีวี)เป็นเชื้อเพลิง จำนวน 4 พันคัน มูลค่า 6.2 หมื่นล้านบาท ได้ในเดือน พ.ย.นี้
ประธานบอร์ด ขสมก.กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ ขสมก.รวบรวมข้อมูลเรื่องอู่จอดรถที่จำเป็นต้องใช้ในโครงการ รวมทั้งข้อมูลจำนวนพนักงานที่จะเข้าร่วมโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดแล้ว
ในส่วนของอู่จอดรถนั้นเบื้องต้นพบว่าไม่จำเป็นต้องจัดหาอู่จอดรถเพิ่มอีก เพราะปัจจุบันมีอู่จอดรถของ ขสมก.และของรถร่วมบริการรวม 26 แห่ง สามารถจอดรถได้ 3,500 คัน และยังมีเอกชนหลายรายยื่นข้อเสนอจัดหาที่จอดรถให้ฟรีแลกกับการนำรถโดยสารในโครงการเติมก๊าซที่สถานีบริการเอกชน ซึ่งเป็นราคาที่จะให้ส่วนลดพิเศษ เพราะเอกชนเห็นว่าเป็นการสร้างหลักประกันรายได้ที่แน่นอน
ขณะที่จำนวนพนักงานที่จะเข้าร่วมโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดที่คาดว่าจะเข้าร่วมโครงการจำนวน 7,009 คนนั้น เป็นตัวเลขเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จึงไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน ซึ่งมีจำนวนพนักงานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก และคาดว่าจะมีพนักงานเข้าร่วมโครงการประมาณ 5 พันคน ซึ่ง ขสมก.จะส่งข้อมูลทั้ง 2 เรื่องให้คณะกรรมการฯ พิจารณาในสัปดาห์หน้า
ด้านนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้งนายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปด้วยความรอบคอบ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้ใช้บริการ และ ขสมก.มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
กรรมการอื่นๆ ประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกรมการขนส่งทางบก ผู้แทนสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย นายวีริศ อัมระปาล นักวิชาการอิสระ นายเสรี จิตต์โสภา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้คำปรึกษากฎหมาย กระทรวงคมนาคม และผู้อำนวยการ ขสมก.