ทริส จัดเครดิตตราสารหนี้ใหม่,คงเครดิตองค์กร-ตราสารหนี้เดิม CK ที่ BBB+

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 16, 2009 17:17 —SMS: IQ ข่าวหุ้น

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาทของ บมจ. ช. การช่าง (CK) ที่ระดับ “BBB+" พร้อมทั้งประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้เดิมของบริษัทที่ระดับ “BBB+" ด้วยแนวโน้ม “Negative" หรือ “ลบ" โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระหนี้และขยายธุรกิจในอนาคต อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย ผลงานที่เป็นที่ยอมรับในโครงการก่อสร้างภาครัฐและโครงการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และรายได้ที่สม่ำเสมอจากการลงทุนในกิจการสัมปทาน

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่บั่นทอนอันดับเครดิตบางส่วน ได้แก่ ภาระหนี้ที่สูงจากการลงทุนในกิจการสัมปทาน จำนวนโครงการก่อสร้างที่ยังไม่ส่งมอบ (Backlog) ที่กระจุกตัว ความเสี่ยงจากสัญญาก่อสร้างแบบคงที่ (Fixed-price Contract) และแรงกดดันต่อความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมก่อสร้างและความไม่แน่นอนทางการเมือง

แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative" หรือ “ลบ" สะท้อนถึงโครงสร้างทางการเงินของบริษัทที่มีสัดส่วนหนี้อยู่ในระดับสูงและความท้าทายในการสร้างกระแสเงินสดเพื่อชำระคืนหนี้และลงทุนในโครงการสัมปทาน อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากบริษัทไม่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนให้ได้ภายใน 12-18 เดือนข้างหน้า ในขณะเดียวกัน แนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับกลับมาเป็น “Stable" หรือ “คงที่" หากบริษัทประสบความสำเร็จในการเพิ่มปริมาณงานรับเหมาก่อสร้างด้วยอัตราส่วนกำไรที่เหมาะสมซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกระแสเงินสดให้แข็งแกร่งได้ในระยะปานกลาง พร้อมทั้งแสดงความสามารถในการลดสัดส่วนหนี้สินได้เพื่อให้มีอัตราส่วนทางการเงินที่ต่ำกว่าข้อกำหนดสิทธิในสัญญาเงินกู้ในระดับที่เหมาะสม

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัท ช. การช่างเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่จำนวน 3 รายของประเทศ บริษัทมีประสบการณ์ด้านการก่อสร้างที่หลากหลายตั้งแต่งานโยธาโครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงโครงการที่มีความซับซ้อนสูง ประสบการณ์ที่หลากหลายดังกล่าวเมื่อรวมกับการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำจากต่างประเทศยิ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้แก่บริษัท ณ เดือนตุลาคม 2552 บริษัทมีงานรับเหมาก่อสร้างที่ยังไม่ส่งมอบมูลค่าประมาณ 16,218 ล้านบาท โดยประมาณ 62% เป็นของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง งานรับเหมาที่ยังไม่ส่งมอบของบริษัทมีจำนวนไม่มากในช่วงปีที่ผ่านมาเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงสาเหตุจากโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐที่ออกมาน้อย งานรับเหมาคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้หากรัฐบาลสามารถผลักดันโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็งได้สำเร็จตามแผนงานที่วางไว้

ธุรกิจสัมปทานของบริษัท ช. การช่างครอบคลุมโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานหลายประเภท ได้แก่ ทางด่วน รถไฟฟ้าใต้ดิน น้ำประปา และไฟฟ้า โดย ณ เดือนมิถุนายน 2552 เงินลงทุนรวมในกิจการสัมปทานประกอบด้วย การถือหุ้นใน บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL) จำนวน 16.4% ใน บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL) 24.6% ใน บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) (TTW) 35.3% และใน บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด (SEAN) 38.0% บริษัทได้รับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอจากการลงทุนใน BECL และ TTW ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากลักษณะผันผวนของรายได้ที่มาจากธุรกิจก่อสร้างได้ระดับหนึ่ง ส่วนโครงการเขื่อนน้ำงึม 2 ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของ SEAN นั้นก่อสร้างแล้วเสร็จไปประมาณ 90% และคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ภายในปี 2554 ในขณะที่ผลประกอบการที่ขาดทุนจาก BMCL ยังคงเป็นปัจจัยลบต่ออันดับเครดิตของบริษัท

ทริสเรทติ้ง กล่าวว่า ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัท ช. การช่างยังคงได้รับแรงกดดันเนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่จากโครงการเขื่อนน้ำงึม 2 จะรับรู้ในปี 2552 อย่างไรก็ตาม โครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตลอดจนจำนวนโครงการที่ยังไม่ส่งมอบที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และรายได้จากเงินปันผลน่าจะสร้างกระแสเงินสดในระดับที่เหมาะสมในปีต่อๆ ไป บริษัทมีภาระหนี้อยู่ในระดับสูง โดย ณ เดือนมิถุนายน 2552 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ที่ 77.9% เนื่องจากเงินที่ใช้ในการลงทุนในโครงการสัมปทานต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ยืม จึงส่งผลให้ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทริสเรทติ้งยังคงกังวลเกี่ยวกับภาระผูกพันทางการเงินของบริษัทในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทลูกในฐานะผู้ถือหุ้นและโครงการลงทุนในสัมปทาน ซึ่งเป็นข้อจำกัดของบริษัทในการพยายามลดภาระหนี้ในระยะปานกลาง ความสามารถในการก่อหนี้เพิ่มยังมีข้อจำกัดจากข้อกำหนดสิทธิในการรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2.5 เท่า โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 2.43 เท่า ในขณะที่สภาพคล่องได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการถือครองหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องดีจำนวนมาก ณ เดือนมิถุนายน 2552 เงินลงทุนใน TTW มีมูลค่ายุติธรรมที่ 5,804 ล้านบาท เปรียบเทียบกับมูลค่าทางบัญชีที่รายงานในงบการเงินจำนวน 2,480 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการที่จะนำ SEAN ไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในระยะใกล้ด้วย ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงแสวงหาทางเลือกอื่นๆ และดำเนินมาตรการหาทุนที่จำเป็นเพื่อเพิ่มกระแสเงินสดสำหรับการลดภาระหนี้และเพื่อการลงทุนในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ