นายนที พานิชชีวะ ประธานกรรมการ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(UNIQ) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"โดยคาดว่า รายได้และกำไรของบริษัทในปี 53 จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากในปีนี้ เนื่องจากเชื่อว่าจะได้รับงานจากภาครัฐเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครงการไทยเข้มแข็งที่จะมีการกระจายงบลงทุนไปในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงงานก่อสร้างโครงการต่าง ๆ
"ปีหน้าจากการที่มีโครงการไทยเข้มแข็ง ยิ่งทำให้บริษัทมีโอกาสได้รับงานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรรายได้ปีหน้าจะดีขึ้น แต่ตอนนี้กำลังศึกษาว่าเราควรจะทำโครงการไหนในโครงการไทยเข้มแข็งที่จะมีรายละเอียดยังไง ซึ่งเราก็หวังว่างานใหม่ในปีหน้าจะสูงกว่าปีนี้... ผมเชื่อมั่นว่าเราทำได้ดีทั้งรายได้และกำไรในปีหน้าดีกว่าปีนี้ ความตั้งใจเราจะพยายามทำให้ดีที่สุด"นายนที กล่าว
นายนที คาดว่า ในปีนี้จะมีกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำไร 111 ล้านบาท ขณะที่รายได้น่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 2.27 พันล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตราว 10% เนื่องจากงบประมาณของส่วนราชการออกมาล่าช้า จึงมีผลกระทบต่อการรับรู้รายได้ของบริษัทไปบ้าง
"ปัจจุบันผลประกอบการของเราก็ได้ตามเป้าหมาย คาดว่าทั้งปีจะเป็นไปตามประมาณการที่เราตั้งไว้ ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้เคียงกับปีก่อน โดยกำไรสุทธิปีนี้ก็คาดว่าจะไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว"นายนที กล่าว
สำหรับผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้และการบริหารต้นทุน ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ ส่วนเรื่องราคาวัสดุก่อสร้างที่อาจปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน บริษัทไม่มีความวิตกเพราะได้ล็อกราคาไว้หมดแล้ว และหากบริษัทมีกำไรก็จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น แต่ก็จะต้องคำนึงถึงแผนการลงทุนของบริษัทด้วย
"คือถ้าปีนี้ มีกำไรก็จะจ่ายปันผล แต่จะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนของบริษัทด้วย ซึ่งต้องกันไว้ส่วนหนึ่ง" นายนที กล่าว
นายนที กล่าวว่า ปีนี้บริษัทได้งานใหญ่เข้ามา คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน มูลค่า 8.7 พันล้านบาท ซึ่งรับรู้รายได้ 3 ปี (ปี 52-54) ทำให้ขณะนี้มีงานในมือ (Backlog) มีอยู่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปีก่อนมีงานในมือกว่า 1 พันล้านบาท
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ที่จะมีการประมูลนั้น ประธานกรรมการ UNIQ กล่าวว่า บริษัทพร้อมจะเข้าประมูลทุกเส้นทาง โดยจะหาพันธมิตรเข้าร่วมประมูลด้วย โดยเบื้องต้นมีโครงการที่บริษัทให้ความสนใจ คือ รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และ บางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งบริษัทได้มีการเจรจาพันธมิตรไว้บ้างแล้ว แต่คงต้องรอดูเงื่อนไขประมูลก่อนจะเจรจาตกลงกันในขั้นสุดท้าย
"เราเตรียมเข้าประมูลโครงการรถไฟฟ้าทุกสาย เข้าใจว่าสายสีแดงน่าจะออกทีโอาร์ก่อนสายสีน้ำเงิน ถ้ามีโอกาสเราก็เข้าประมูลหมด เพียงแต่ได้-ไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง บริษัทได้เจรจาพันธมิตร แต่ขึ้นอยู่กับทีโออาร์แต่ละโครงการ อย่างโครงการสายสีน้ำเงิน การก่อสร้างต้องมีการลอดสะพานก็ต้องหาผู้เชี่ยวชาญด้านเจาะอุโมงค์ ฉะนั้นเราจะดูทีโออาร์และพาร์ทเนอร์รายใดเหมาะกับโครงการ อย่างไรก็ตามทุกเส้นทางที่จะเข้าประมูลเราเตรียมพาร์ทเนอร์ไว้หมดแล้ว"นายนที กล่าว
อนึ่ง โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ซึ่งบริษัทได้เริ่มงานไปแล้ว โดยอยู่ภายใต้บริษัทร่วมทุนกับ บริษัท CHUNWO CONSTRUCTION & ENGINEERING CO.,LTD จัดตั้งเป็นกลุ่มยูนิค-ซุนวู จอยท์เวนเจอร์
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมพร้อมที่จะเข้าประมูลงานกำจัดขยะของ กทม.ในปีหน้า หลังจากที่บริษัทได้ศึกษาวิธีการกำจัดขยะมานานนับ 10 ปีแล้ว โดยปัจจุบัน ทาง กทม.ได้ใช้วิธีผังกลบซึ่งต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก ซึ่งอนาตตพื้นที่ฝังกลบคงจะไม่มีแล้ว ดังนั้น จึงต้องกำจัดในรูปแบบอื่น ขณะที่บริษัทจะใช้วิธีแยกประเภทขยะก่อนกำจัด
บริษัทมองว่าขยะจะเป็นปัญหาของ กทม.ในช่วงต่อไป ซึ่งตอนนี้ กทม.ศึกษาอยู่ว่ารูปแบบการกำจัดขยะและเทคโนโลยีในอนาคตควรจะใช้แบบใด จึงจะสามารถออกทีโออาร์ได้ โดยคาดว่าปีหน้าจึงจะเปิดประมูลได้
"ผมดูแล้วเชื่อว่าพื้นที่ฝังกลบคงจะหมดแล้ว กทม.ก็ต้องหาวิธีอื่น แต่ช้าเร็วผมยังไม่สามารถคำนวณได้ คงต้องขึ้นกับกทม...เราเห็นโอกาสอย่างนี้มานานแล้ว ซึ่งบางประเทศทำมานานแล้ว เราศึกษามา 10 กว่าปี เพราะฉะนั้นเราค่อนข้างมั่นใจ"นายนที กล่าว