รฟม.คาดเปิดประมูลส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินราวกลาง ธ.ค.แยกเป็น 5 สัญญา

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 22, 2009 10:30 —SMS: IQ ข่าวหุ้น

นายชูเกียรติ โพธยานุวัตร ว่าที่ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การดำเนินงานโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ กับหัวลำโพง-บางแค ทางรผม.คาดว่าจะเปิดขายเอกสารประกวดราคาเส้นทางนี้ได้ราวกลางเดือน ธ.ค.นี้ โดยจะแยกเปิดประมูลเป็น 5 สัญญา ซึ่งจะเปิดประมูลพร้อมกัน

"จากที่บอร์ดได้อนุมัติกรอบวงเงินใหม่ ก็ได้เสนอกระทรวงคมนาคม และเสนอต่อ ครม.อนุมัติวงเงินใหม่ หลังจากนั้นเราก็จะจ้างที่ปรึกษาเพื่อกำหนดราคากลาง และให้บอร์ดอนุมัติเอกสารประกวดราคาก่อน ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้เมื่อผ่านแล้ว ก็จะเปิดขายซองได้น่าจะเป็นเดือน ธันวาคม ราวๆกลางเดือน" นายชูเกียรติ กล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการ รฟม.ได้อนุมัติกรอบวงเงินงานก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน เป็น 5.24 หมื่นล้านบาท จากกรอบวงเงินเดิมที่ 4.88 หมื่นล้านบาท แหล่งเงินจะมาจากแหล่งเงินในประเทศ

นายชูเกียรติ กล่าวว่า งานโยธาของส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินจะแยกเป็น 5 สัญญา แบ่งเป็นงานใต้ดินและเจาะอุโมงค์ 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาแรก ช่วงสถานีวัดมังกรและสถานีวังบูรพา ระยะทาง 2.8 กม. 2 สถานี สัญญาที่สอง จะเริ่มจากสถานีสนามชัย และสถานีอิสรภาพ มีระยะทาง 2.8-2.9 กม. มี 2 สถานี

ส่วนอีก 2 สัญญาเป็นงานยกระดับ ได้แก่ สัญญาที่ 3 ที่เริ่มจากสถานีอิสรภาพ-ท่าพระ-บางแค (เดอะมอลล์บางแค) ระยะทาง 9 กม. และสัญญาที่ 4 จะเริ่มจากเส้นทางที่เชื่อมต่อจากสถานีเตาปูนในรถไฟฟ้าสายสีม่วง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มาบรรจบที่ท่าพระ มีระยะทาง 11 กม. และ สัญญาที่ 5 เป็นงานวางรางทั้งหมด

สำหรับความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 2 และ สัญญที่ 3 นายชูเกียรติ กล่าววา ขณะนี้รอหนังสือจากอัยการสูงสุดที่จะให้ความเห็นชอบร่างสัญญาทั้งสองฉบับ ซึ่งคาดว่าจะส่งกลับมายัง รฟม.ในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า จึงคาดว่าประมาณปลายเดือนต.ค.นี้ ก็จะสามารถเซ็นสัญญาทั้งสองฉบับได้พร้อมกัน

อนึ่ง สัญญาที่ 2 บริษัทได้รับงานคือ บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) วงเงิน 13,100 ล้านบาท ส่วนสัญญาที่ 3 บริษัทที่ได้รับงาน คือ กลุ่ม PAR Joint Venture ประกอบด้วย บมจ. แอสคอน คอนสตรัคชั่น (ASCON), บมจ. เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) และบริษัท รวมนครก่อสร้าง (ประเทศไทย) จำกัด) วงเงิน 5,025 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ