นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.น้ำประปาไทย(TTW)เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนธุรกิจน้ำประปาในประเทศแถบอาเซียน 2 โครงการ คาดว่าจะข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งการพิจารณาจะขึ้นอยู่กับนโยบายตอบรับการลงทุนในแต่ละประเทศ แต่ในส่วนของ TTW มีความพร้อมที่จะเข้าลงทุน โดยบริษัทมีวงเงินสินเชื่อราว 3.5 พันล้านบาท และหากมีความจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มมากกว่านั้นก็สามารถขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นกู้เพื่อเพิ่มวงเงินสินเชื่อดังกล่าวได้
"เราจะไปลงทุนธุรกิจน้ำ โดยเริ่มนับหนึ่ง ซึ่งยังมีหลายประเทศในแถบอาเซียนที่มีโอกาสให้เข้าไปลงทุน แต่ที่สุดแล้ว เราจะได้เข้าไปลงทุนหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลแต่ละประเทศ รวมถึงการหา Local Partner ในแต่ละประเทศด้วย"นายสมโพธิ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ TTW คาดว่า กำไรสุทธิของบริษัทในปี 52 จะสูงกว่าปี 51 ที่มีกำไรสุทธิ 1.36 พันล้านบาท และในงวดปี 52 บริษัทมีแผนจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าปี 51 ที่จ่ายในอัตรา 0.20 บาท/หุ้น หลังจากงวดครึ่งปีแรกจ่ายไปแล้ว 0.10 บาท/หุ้น โดยนโยบายของบริษัทต้องการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นทุกปี
ด้านรายได้ในปี 52 คาดว่าจะอยู่ในระดับ 4 พันล้านบาท เติบโต 12% จากปี 51 ซึ่งบริษัทได้ปรับเป้าหมายเมื่อกลางปีจากเดิมที่คาดเติบโต 14% สาเหตุจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ปริมาณการใช้น้ำน้อยกว่าเคยคาดการณ์ไว้ แต่ก็ถือว่าได้รับผลกระทบไม่มากนัก
และในปี 53 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตต่อเนื่อง 12% จากปีนี้ เนื่องจากบริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1.2 แสนลูกบาศก์เมตร/วันในไตรมาส 3/53 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 4.4 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน ประกอบกับ เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวน่าจะทำให้ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมมีอัตราการใช้น้ำเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะสามารถรองรับความต้องการใช้น้ำได้อย่างน้อย 3-4 ปี แต่บริษัทจะพิจารณาลงทุนเพิ่มกำลังผลิตอีกในปี 55-56 ไม่น้อยกว่า 1 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน
นายสมโพธิ คาดว่า ในปี 53 บริษัทจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปี 52 ด้วยตามทิศทางรายได้ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับ หลังจากบริษัทปรับโครงสร้างหนี้ ทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายลดลง 1.5% หรือลดลงประมาณ 45 ล้านบาท/ปี และบริษัทได้ยืดอายุการชำระหนี้จาก 6 ปีเป็น 10 ปี ทำให้มีภาระการจ่ายคืนหนี้ลดลง จะส่งผลให้บริษัทมีสภาพคล่องเพื่อใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
สำหรับแผนการปรับโครงสร้างหนี้หลังจากนี้ บริษัทจะควบรวมบริษัทย่อย 2 แห่งเข้าด้วยกัน คือ บริษัท วอเตอร์โฟลว์ จำกัด ซึ่ง TTW ถือหุ้นอยู่ 100% กับบริษัท บีเจที วอเตอร์ จำกัด ซึ่งบริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด (PTW) ถือหุ้นอยู่ 100 % เพื่อสะดวกต่อการบริหารจัดการและลดภาระค่าใช้จ่ายของบริษัท