บมจ.ไทยออยล์(TOP)คาดว่าในปี 52 กำไรของบริษัทจะสูงกว่าที่โบรกเกอร์ประเมินไว้ที่ราว 9 พันล้านบาท เนื่องจาก 8 เดือนแรกทำกำไรได้แล้ว 8 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3/52 ผลประกอบการของบริษัทยังน่าจะออกมาดี เนื่องจากมาร์จิ้นอะโรเมติกส์ปรับตัวดีขึ้นมาเป็น 159 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงกว่าไตรมาส 2/52 ที่อยู่ในระดับ 155 เหรียญสหรัฐ/ตัน แม้ว่ากำไรจากการกลั่น(GRM)จะต่ำกว่า 5.7 เหรียญ/บาร์เรลจากในไตรมาส 2/52
ส่วนในไตรมาส 4/52 บริษัทยังคงสามารถเดินเครื่องกลั่นน้ำมัน 100% ของกำลังการกลั่น แม้ว่าโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งทั่วโลกได้ปรับลดการผลิตลง เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันยังไม่สอดคล้องกับปริมาณการกลั่น
สำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 53 บริษัทจะมีการลงทุนในโครงการต่อเนื่องราว 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ โครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 4 และ โครงการของบริษัท ไทยลูปเบส
ขณะที่การควบรวมกิจการโรงกลั่นในกลุ่มปตท. นั้น เชื่อว่า TOP จะเป็นรายสุดท้ายที่จะควบรวมกับกลุ่มโรงกลั่นในเครือ บมจ. ปตท.(PTT) เนื่องจากมองว่าบมจ. ไออาร์พีซี (IRPC) บมจ. ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) และ บมจ.ปตท.เคมิคอล (PTTCH) มีความเป็นไปได้ที่จะควบรวมกันก่อน เพราะที่ตั้งอยู่ใน อ.มาบตาพุด จ.ระยอง เหมือนกันทั้ง 3 ราย ขณะที่ TOP อยู่ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งห่างออกมามาก