นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อินโดรามา โพลีเมอร์ส (IRP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้มีมติกว่า 98% หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 266 ล้านหุ้น (จากทั้งหมดจำนวน 387 ล้านหุ้น ไม่รวม NVDR) เห็นด้วยกับแผนแลกหุ้นและการเพิกถอนหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ตามข้อเสนอของบริษัท อินโด รามาเวนเจอร์ (IVL)
ต่อจากนี้ IRP จะทำการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการเสนอซื้อหลักทรัพย์ IRP ภายในเดือน ธ.ค.นี้
นายอาลก กล่าวว่า จากแผนการดำเนินงานที่วางไว้บริษัท อินโด รามาเวนเจอร์ (IVL) น่าจะเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ใด้ภายในไตรมาสแรกปีหน้า ภายหลังจากนั้นคาดว่า IVL จะได้รับการจัดหมวดไว้ใน SET 50 เนื่องจากปัจจุบัน IVL มีมูลค่ารวมของสินทรัพย์อยู่ที่ 72,443 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับที่ 15 ในหมวด SET 50 และ IVL ยังมีผลกำไรสุทธิ(งวด 6 เดือน ที่ผ่านมา)อยู่ที่ 2,872 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับที่ 19 ในหมวด SET 50
ปัจจุบัน IVL มีโรงงานผลิต 3 ทวีปทั่วโลกมากกว่า 12 ประเทศ และตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปีนี้ 30% หรือมากกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐในเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลประกอบการที่สวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ในช่วงครึ่งปีแรก IVL มีผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 38% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 22% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นจากทุนที่ใช้ (ROCE) อยู่ที่ 16% เพิ่มจาก 14% ในปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายอยู่ที่ 38,600 ล้านบาทในครึ่งปีแรก มี EBITDA อยู่ที่ 58,000 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,900 ล้านบาท
IVL มีกำลังการผลิต PTA อยู่ที่ 1.6 ล้านตันต่อปี หรือ ประมาณ 4% ของกำลังการผลิตทั่วโลก ในขณะที่ IRP มีกำลังการผลิต PET อยู่ที่ 1.4 ล้านตันต่อปี หรือประมาณ 9% ของกำลังการผลิตทั่วโลก และมีกำลังการผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์อยู่ที่ 352,000 ตัน หรือประมาณ 1% ของกำลังการผลิตทั่วโลก
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า เมื่อ IVL เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้วจะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ