นายโพธิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสวีไอ(SVI) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการลงทุนโรงงานแห่งที่ 3 เพื่อให้เปิดเดินเครื่องได้ในช่วงไตรมาส 1/53 จากเดิมก่อนหน้านี้ได้ชะลอโครงการจากผลกระทบภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ โดยคาดว่าโรงงานแห่งนี้จะใช้เงินลงทุนประมาณ 350 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยดำเนินการไปแล้วในส่วนของคลังสินค้า
โรงงานแห่งที่ 3 ดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่าประมาณ 240 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี(รวม 3 โรง) ซึ่งจะเพียงพอในการรองรับคำสั่งซื้อของลูกค้าโดยไม่จำเป็นต้องสร้างโรงงานแห่งใหม่เพิ่มอีกในระยะ 5 ปีจากนี้ เพราะโรงงานแห่งที่ 3 จะทยอยเติบโตและเพิ่มกำลังการผลิตไปเรื่อย ๆ คงไม่ได้ผลิตเต็มที่ในคราวเดียว
ขณะที่ แผนการสร้างโรงงานแห่งใหม่เพิ่มเติมในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเวียดนาม คงจะพับแผนไปเลย
นายโพธิ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเริ่มมีคำสั่งซื้อกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งลูกค้ารายเดิมที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าใหม่จำนวน 2 รายในแถบยุโรปที่จะเริ่มในเดือนนี้ แต่จะส่งผลต่อรายได้ของบริษัทให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยในปีหน้า ประกอบการภาพรวมของธุรกิจเริ่มกลับมาฟื้นแล้ว ซึ่งในปี 52 บริษัทประเมินรายได้ทั้งหมดไว้ที่ 190 ล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาแม้จะมีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก แต่ไม่สามารถหาซื้อวัตถุดิบได้ทันกับคำสั่งซื้อที่เข้ามาได้ โดยเฉพาะคำสั่งซื้อสินค้าประเภท IC ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับแผนโดยการหันมาหาซื้อวัตถุดิบโดยตรงในจีน จากที่เคยซื้อจากสิงคโปร์ ก็จะทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ค่อนข้างมาก รวมถึงการเข้าหาซัพพลายเออร์โดยตรง รวมทั้งเพิ่มพนักงานในโรงงานที่จีนเพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้จะสามารถรักษาอัตรากำไรขึ้นต้นและอัตรากำไรสุทธิได้ใกล้เคียงกับปีก่อน