นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่(GRAMMY)คาดว่า กำไรสุทธิในปี 53 จะเพิ่มขึ้นจากปีนี้และมีโอกาสทำสถิติสูงสุดในรอบ 27 ปี โดยเฉพาะจากธุรกิจดิจิตอลที่จะเป็นตัวหลักในการสร้างกำไรให้กับบริษัท รวมทั้งธุรกิจจัดจำหน่าย และธุรกิจบรอดคาสท์เพิ่มเข้ามา จากปีนี้ที่รายได้หลักมาจากธุรกิจเพลงและธุรกิจมีเดีย
ขณะที่ในปี 52 คาดว่ากำไรจะทรงตัวจากปีก่อน
"ปีนี้การที่เราประคองกำไรให้อยู่ใกล้เคียงกับปี 51 ก็ถือว่าพอใจแล้วภายใต้เศรษฐกิจที่แย่ แต่ที่ผ่านมาเราก็ได้มีการปรับปรุงตัวเองโดยตลอดและเห็นภาพว่าตัวไหนที่จะสร้างรายได้และกำไรให้กับเรา"นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ธุรกิจบรอดคาสท์ในปี 53 มีแนวโน้มที่จะถึงจุดคุ้มทุน(Break Event)ได้ จากปีนี้ที่คาดว่าจะยังขาดทุนอยู่ประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้าจะมีรายได้จากบริษัท แฟมิลี่ โนฮาว ที่บริษัทเข้าไปถือหุ้นเข้ามาเสริม โดยคาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า โดยตั้งเป้ากำไร 100 ล้านบาทในปีแรก
นอกจากนั้น ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างประเมินเม็ดเงินลงทุนในปี 53 ซึ่งจะเน้นการลงทุน Content รูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น เพื่อให้บทบาทของบริษัทปรับไปสู่การเป็น Creative Company จากที่แต่ก่อนเป็น Entertainment Company
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเจรจาเข้าซื้อกิจการในธุรกิจคอนเทนท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์นั้น ขณะนี้ข้อมูลยังไม่เรียบร้อย ดังนั้นไม่น่าจะทันในปีนี้ แต่เชื่อว่าในปีหน้าจะสามารถสรุปได้ว่าจะซื้อหรือไม่ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท
สำหรับปัจจุบันสัดส่วนหุ้นที่ถืออยู่ในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์นั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตอนนี้พอใจและถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่จะเข้าไปร่วมมือในการทำธุรกิจมากกว่า เพราะในยุคต่อไปจะเข้าสู่ยุคของ 3G และ อินเตอร์เน็ต ไฮ-สปีด ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในธุรกิจสื่อด้วย