โบรกเกอร์ ต่างแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC)มองแนวโน้มกำไรปี 52 ดีขึ้น หลังไตรมาส 3/52 ประกาศงบออกมาดีกว่าคาด แม้บางโบรกเกอร์มองว่าแค่ทำได้ตามที่คาดการณ์ไว้ เป็นผลจากการปรับลดค่าใข้จ่าย รวมทั้งปีนี้บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายกระแสเงินสดเป็น 1.3 หมื่นล้านบาท จากเดิม 1.2 หมื่นล้านบาท
ประกอบกับ หากบริษัทได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 3G ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อบริษัททั้งรายได้ที่เข้ามาใหม่ และ การลดค่าใช้จ่ายส่วนแบ่งรายได้ ซึ่งตามสัญญาจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงช่วงเวลาประมูลใบอนุญาต 3G ที่มีแนวโน้มอาจจะต้องเลื่อนออกไปเป็นต้นปีหน้า
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(ยาท/หุ้น) บล.กิมเอ็ง ทยอยสะสม 51.00 บล.ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 50.00 บล.เอเซียพลัส ซื้อ 48.20 บล.ยูไนเต็ด ซื้อ 45.50 สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ซื้อ 45.00 บล.ทิสโก้ ซื้อ 45.00 บล.ธนชาต ซื้อ 38.00
น.ส.ศลยา ณ สงขลา ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย กล่าวว่า ได้ปรับราคาเป้าหมายของ DTAC ขึ้นมาจากเดิม 44 บาท เพราะเห็นว่ากำไรในไตรมาส 3/52 ออกมาดีกว่าคาดการณ์ จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรทั้งปี 52 เป็นเติบโต 7% หรือมีกำไร 6.2 พันล้านบาท(2.36 บาท/หุ้น)
นอกจากนี้ ผู้บริหารของ DTAC ปรับเพิ่มเป้าหมายเงินสดอิสระ(EBITDA-เงินลงทุน)ปีนี้จาก 1.2 หมื่นล้านบาท เป็น 1.3 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ 3 ไตรมาสแรกมีเงินสดอิสระแล้ว 1.07 หมื่นล้านบาท เราจึงปรับลดสมมติฐานเงินลงทุนปีนี้ลงจากเดิม 1.2 พันล้านบาทเป็น 6.5 พันล้านบาท ปัจจุบัน ฐานะการเงินของบริษัทดีมากมีเงินสดในมือ(รวมเงินลงทุนระยะสั้น)1.9 หมื่นล้านบาท ณ ไตรมาส 3/52
"จะมี 2 เรื่องที่มีผลต่อ Fair Value ใหม่ จากเรื่องปรับลดงบประมาณลงทุน และปรับเพิ่มกำไร"น.ส.ศลยา กล่าว
ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายใหม่รวมกรณีที่ได้ดำเนินธุรกิจ 3G ด้วย แต่ไม่ถ้าไม่รวม 3G ราคาเป้าหมายจะอยู่ที่ 36.50 บาท
น.ส.ศลยา ระบุว่า คาดไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าการประมูลใบอนุญาต 3G คงจะอยู่ในไตรมาส 1/53 ในเดือน ธ.ค.นี้คงจะไม่ทัน แต่ล่าสุดจะเห็นประเด็นเรื่องการประมูลมีความเสี่ยงมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ได้แนะนำให้"ทยอยสะสม"มานานแล้ว เมื่อเทียบกับ ADVANC ที่แนะ"ซื้อ"และเป็น Top pick ซึ่งหากมีข่าวลบเรื่อง 3G หุ้นจะรับผลกระทบน้อยกว่า DTAC ขณะที่ DTAC เก็งกันว่าหากได้ใบอนุญาตทำ 3G ก็จะได้รับประโยชน์มาก เพราะปัจจุบัน DTAC จ่ายส่วนแบ่งรายได้สูงกว่า ADVANC
"ช่วงนี้จนถึงสิ้นปีคงไม่มีข่าวบวกกับ 3G เพราะดูยังไง สิ้นปีนี้ไม่ทันอยู่แล้ว ถ้าจะเห็นชัวร์ๆ ก็ต้องดูไตรมาส 1 ปีหน้าว่าเป็นยังไง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงว่าจะเป็นไปอย่างที่คาดหรือเปล่า" น.ส.ศลยา กล่าว
อนึ่ง DTAC จะต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเป็น 30% ในเดือน ก.ย.54 ภายใต้สัญญาเดิม
บทวิเคราะห์ของ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า DTAC รายงานกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 3/52 จำนวน 1.62 พันล้านบาทดีกว่าคาด สาเหตุหลักมาจากรายได้ค่าบริการ(ไม่รวม IC)ที่กระเตื้องขึ้น 1%qoq เป็น 1.6 หมื่นล้านบาท จากการใช้งานที่เพิ่มขึ้นทั้งผู้ใช้งานในประเทศ และการโทร.ข้ามแดนอัตโนมัติ(International Roaming)ของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายสุทธิในการเชื่อมโยงโครงข่ายระหว่างผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่(IC)ลดลง 25%qoq จาก 320 ล้านบาทในงวด 2Q52 เหลือ 240 ล้านบาท
นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มสมมติฐานการโอนลูกค้าไปใช้ 3G ในปีแรกเป็น 5% และเพิ่มเป็น 15-60% ภายในปีที่ 2-4 โดยประมาณการใหม่หลังปรับปรุงรายได้, ค่าใช้จ่าย และสมมติฐานการโอนลูกค้าดังกล่าวข้างต้น พบว่าทำให้กำไรสุทธิในปี 52-53 ลดลงเฉลี่ย 12% แต่การปรับโอนลูกค้าที่เร็วขึ้นจะเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ปี 54 และส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 54-61 เพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 8% จากประมาณการเดิม รวมทั้งทำให้ราคาเหมาะสมปี 53(รวม 3G)ปรับเพิ่มขึ้นจาก 44.10 บาท เป็น 48.20 บาท ซึ่งมี upside 25% จากราคาปัจจุบัน
ด้าน น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ยังมองว่า DTAC จะได้รับประโยชน์มากจากง 3G ที่จะเป็นรายได้ใหม่เข้ามา ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานขณะนี้ปรับตัวลงเป็นการขาย sell on fact และการประมูล 3G มีแนวโน้มว่าจะเลื่อนจากสิ้นปีนี้เป็นต้นปีหน้า กดดันให้ราคาหุ้นปรับลงมา และในช่วงที่ผ่านมาปรับลงตามตลาดด้วย
ส่วนงบไตรมาส 3/52 ออกมาใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ตอนนี้จึงไม่เหลือประเด็นอื่น นอกจากรอ 3G อย่างเดียว ซึ่งจะมีการทำประชาพิจารณ์รอบ 2 ในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ถ้ารอบ 2 ไม่มีอะไรที่แก้ไขมาก ก็จะเดินตามขั้นตอน โดยคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือน ก.พ. 53 จากเดิมคาดจะเปิดประมูลได้ในเดือน ธ.ค.52 หรือ ม.ค.53
"ยังไงก็ยังแนะนำ ซื้อ เพราะบริษัทจะได้ประโยชน์จาก 3G ก็จะลดค่าใช้จ่ายจะลดลงจากการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ที่จ่ายสูงกว่าเอไอเอส ประมาณ 2% แต่ถ้ามีไลเซ่นส์ใหม่ ทุกคนก็จะจ่ายเท่ากัน ...แต่มองว่าจังหวะเช้าซื้อตอนดัชนีตลาดที่ 680-650 จุด ซึ่งคาดว่าเดือนหน้าตลาดจะปรับตัวลง" น.ส.จิตรา กล่าว
บทวิเคราะห์ ธนชาต ระบุว่า DTAC รายงานกำไรปกติงวดไตรมาส 3/52 จำนวน 1.64 พันลบ. ลดลง 11%yoy แต่เพิ่มขึ้น 20%qoq เป็นไปตามที่เราคาด เนื่องจากช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ กำไรคิดเป็น 76% ของประมาณการกำไรทั้งปี
กำไรที่ลดลง yoy มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเชื่อมโยงโครงข่ายโทรคมนาคม (IC) ราว 26% ขณะที่ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น qoq มีสาเหตุจาก รายได้ค่าบริการที่เพิ่มขึ้น 2% , การลดลงของ net IC ราว 25% และค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาดที่ลดลง 4% เป็นผลจากโปรแกรมควบคุมต้นทุนที่เริ่มเห็นผลมากขึ้น ขณะที่ปัจจุบันรายได้ค่าบริการเป็นบวกแล้วเมื่อเทียบ yoy
จำนวนผู้ใช้บริการยังคงเติบโตมาอยู่ที่ 19.3 ล้านราย จาก 19.2 ล้านราย ARPU และ MOU ทรงตัว qoq ขณะที่อัตราค่าโทรยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากการแข่งขันที่เข้มข้นน้อยลง รายได้ค่าบริการเติบโต 1%yoy และ 2%qoq
"เรายังคงชอบ DTAC เนื่องจากแนวโน้มกำไรที่ดีขึ้น และได้รับประโยชน์มากที่สุดจากระบบ 3G ถึงแม้ว่าราคาหุ้นได้ผ่านราคาเป้าหมายภายใต้ระบบ 2G ของเราที่ 38 บาท/หุ้น ไปแล้ว แต่ยังคงมี upside อีก 30% หากเรารวมผลได้จากระบบ 3G ในประมาณการ"บทวิเคราะห์ ระบุ